" จูเซปเป คอนเต" นายกรัฐมนตรีอิตาลี ประกาศเคอร์ฟิวหลังป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

05 พ.ย. 2563 | 06:50 น.

นายกรัฐมนตรีอิตาลี ลงนามกฤษฎีกาบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น. พบผู้ป่วยติดโควิดเพิ่มขึ้น ต่อเนื่อง

วันนี้ 5 พ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี ลงนามกฤษฎีกาบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น. เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ยังคงเพิ่มขึ้นต่อ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"อิตาลี"ออกมาตรการ"สวมหน้ากาก" ฝ่าฝืนปรับกว่า 3 หมื่นบาท

"อิตาลี"ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งกว่า 3,000 รายในวันเดียว

อิตาลีขยายเวลาใช้มาตรการฉุกเฉินคุมโควิดถึง 15 ต.ค.

อิตาลี-เยอรมนี เริ่มเปิดชายแดนรับนักท่องเที่ยว

 

กระทรวงสาธารณสุขของอิตาลีระบุว่ากฤษฎีกาฉบับนี้ ซึ่งถูกลงนามเมื่อราวเที่ยงคืนของวันอังคาร (3 พ.ย.) และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (5 พ.ย.) จนถึงวันที่ 3 ธ.ค. มีขึ้นหลังจากจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 28,244 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิต 353 ราย ในวันอังคาร (3 พ.ย.)

จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่อยู่ระหว่างรักษาตัวของอิตาลีรวมอยู่ที่ 418,142 ราย เมื่อนับถึงวันอังคาร (3 พ.ย.) โดยมีผู้ป่วยอยู่ระหว่างกักกันตัวที่บ้าน 394,803 ราย และผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 21,114 ราย ซึ่งอยู่ในแผนกผู้ป่วยหนัก 2,225 ราย

 

กฤษฎีกาฉบับใหม่แบ่งอิตาลีออกเป็น 3 กลุ่ม (พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่ำ ความเสี่ยงกลาง และความเสี่ยงสูง) โดยมีการบังคับใช้กฎระเบียบที่แตกต่างกันตามระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาด ซึ่งรัฐบาลอิตาลียังไม่ได้ประกาศการจัดกลุ่มให้กับทั้ง 20 แคว้นของประเทศ

 

กฤษฎีกาฉบับใหม่กำหนดให้โรงเรียนมัธยมทั่วประเทศเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอนเป็นทางออนไลน์ ขณะโรงเรียนอนุบาลและประถมยังคงเปิดการเรียนการสอนตามปกติ ส่วนมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะกำหนดให้นักศึกษาเรียนทางออนไลน์เท่าไร เพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดในสถานศึกษา

 

ด้านห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศปิดให้บริการในช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุด ขณะบาร์และร้านอาหารเปิดให้บริการได้ในระหว่างเวลา 05.00 น. และ 18.00 น. ส่วนระบบขนส่งสาธารณะให้บริการได้แค่ร้อยละ 50 จากปกติ

ส่วนพิพิธภัณฑ์ ห้องแสดงผลงานศิลปะ โรงละคร สถานที่จัดคอนเสิร์ต โรงภาพยนตร์ และสถานที่เล่นการพนัน จะต้องปิดให้บริการ รวมถึงการรวมกลุ่มในที่สาธารณะ การเฉลิมฉลอง งานแสดงสินค้า เทศกาล และกิจกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะจัดกลางแจ้งหรือในร่ม ถูกสั่งห้ามด้วยเช่นกัน

 

ปัจจุบันทั่วโลกต่างพยายามควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงอิตาลี ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ กำลังแข่งกับเวลาเพื่อพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19

 

เว็บไซต์องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเมื่อนับถึงวันที่ 3 พ.ย. มีวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ถูกพัฒนาอยู่ 202 ตัวทั่วโลก โดยมีวัคซีน 47 ตัว อยู่ในขั้นตอนการทดลองทางคลินิคแล้ว