หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 5 พฤศจิกายน 2563
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้และตลาดคาดว่าสหรัฐฯ จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน ภายหลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสิ้นสุด ณ วันที่ 30 ต.ค. 63 ปรับลดลงกว่า 8.0 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในช่วงพายุเฮอร์ริเคนเซตา
+ ตลาดยังคงจับตาการประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรในปลายเดือนนี้ หลังมีแนวโน้มที่กลุ่มผู้ผลิตจะปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติมในช่วงต้นปี 2021 หลังอุปสงค์น้ำมันโลกฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดไว้
- การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายประเทศในยุโรปประกาศมาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติมเพื่อยกระดับการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกจากจีนและไต้หวันที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ของอินเดียที่ฟื้นตัวขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ลดลง หลังโรงกลั่นคงกำลังการผลิตในระดับต่ำต่อเนื่อง นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกน้ำมันดีเซลส่วนเกินจากเอเชียไปยังประเทศฝั่งตะวันตกที่เพิ่มขึ้น
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ขานรับรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.49 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 39.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.52 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 41.23 ดอลลาร์/บาร์เรล