วันที่ 4 พ.ย. 63 เวลา 16.00 น. แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563 ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่สนามหลวง โดยประกาศยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ร่วมสังฆกรรมกับ คณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ ที่รัฐสภาและรัฐบาลกำลังจะตั้งขึ้น พร้อมกับ ยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องเดิม ที่เคยเรียกร้องไว้ก่อนหน้านี้
ในการแถลงกลุ่มคณะราษฎร ย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นอุปสรรคใหญ่การแก้ปัญหาการเมือง และ การตั้งคณะกรรมการปรองดองเป็นเพียงการแสดงละครทางการเมือง ยันไม่ยอมรับ ไม่สังฆกรรม กับคณะกรรมการชุดดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติด สถานการณ์การชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 4 พ.ย.63
เปิดเส้นทางเลี่ยง"ม็อบคณะราษฎร"ชุมนุมสนามหลวงเย็นนี้
"บิ๊กช้าง" แจงสภา ไทม์ไลน์ "สลายชุมนุมม็อบคณะราษฎร"
สถานทูตสหรัฐฯเผยแกนนำม็อบขอลี้ภัยไปอเมริกาเป็นข่าวเท็จ
ศาลชี้ชะตา“บิ๊กตู่”หลุดนายกฯหรือไม่ 2 ธ.ค.นี้ คดีพักบ้านทหาร
"ย้ำไม่ลดเพดานเคลื่อนไหวคงจุดยืน 3 ข้อ คือพลเอกประยุทธ์ลาออก ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ต้องปฏิรูปสถาบันฯ"
โดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ "ไผ่ ดาวดิน" กล่าวว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และองคาพยพยังอยู่ การเจรจาจะไม่เกิดขึ้น รัฐสภาจะไม่มีความหมาย ซึ่งส่วนหนึ่งของสภา ไม่ได้ปกป้องประชาชน แต่ปกป้องพล.อ.ประยุทธ์ ถ้าจะถอยคนละก้าวต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก โดยตอนนี้ได้รวบรวมผู้ต่อสู้ในทุกภูมิภาคเพื่อออกแบบการชุมนุม หลังข้อเรียกร้องที่เสนอไปนั้น รัฐบาลไม่ทำตาม จึงต้องออกแบบการต่อสู้กันอีกครั้ง
"เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่นานขึ้น ก็ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น โดยจะมีการชุมนุมใหญ่ไปเรื่อยๆแน่นอน โดยยืนยันแนวทางสันติและสงบ แม้ไม่รู้ว่าครั้งใดจะชนะ แต่เราจะไม่ลดความฝันและหาเพื่อนร่วมทางต่อไป"
นาจตุภัทร์ กล่าวว่าจะใช้เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมเป็นช่องทางติดต่อหลัก ซึ่งขณะนี้การเคลื่อนไหวเป็นแบบออแกนิค เป็นแกนนอน ไม่มีแกนนำ เพราะกลุ่มคนที่ไม่พอใจรัฐบาลมีหลากหลายขึ้น โดยกลุ่มราษฎรเป็นเพียงกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แม้การต่อสู้ของเรายังไม่ได้รับการตอบสนองทั้ง 3 ข้อเรียกร้อง แต่การเก็บเกี่ยวระหว่างทาง เช่น การที่รัฐบาลยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ การเรียกร้องความยุติธรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น ก็ซึ่งสะท้อนเสียงเราดังขึ้นและมีเพื่อนมากขึ้น