ดาวโจนส์ ปิดพุ่ง 554 จุด รับเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ

03 พ.ย. 2563 | 23:43 น.

ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 554.98 จุด ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และพรรคเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และพรรคเดโมแครตจะสามารถครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งจะเปิดทางให้คณะบริหารของนายไบเดนสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,480.03 จุด เพิ่มขึ้น 554.98 จุด หรือ +2.06% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,369.02 จุด เพิ่มขึ้น 58.78 จุด หรือ +1.78% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,160.57 จุด เพิ่มขึ้น 202.96 จุด หรือ +1.85%
          

นักลงทุนยังคงรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ เนื่องจากสหรัฐเป็นประเทศขนาดใหญ่และใช้โซนเวลาแตกต่างกัน จึงทำให้แต่ละรัฐมีเวลาเปิดหีบและปิดหีบเลือกตั้งไม่เหมือนกัน โดยรัฐจอร์เจีย อินเดียนา เคนตั๊กกี เซาท์แคโรไลนา เวอร์มอนท์ และเวอร์จิเนีย เป็นรัฐกลุ่มแรกที่ปิดหีบเลือกตั้ง และเริ่มนับคะแนนเร็วที่สุดของสหรัฐ โดยตรงกับวันนี้เวลา 07.00 น.ตามเวลาไทย
          

แซค แพนเดิล นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะเกิดปรากฎการณ์ "Blue Wave" หรือสถานการณ์ที่นายไบเดนสามารถเอาชนะปธน.ทรัมป์ และพรรคเดโมแครตได้ครองเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ ก็จะเปิดทางให้คณะทำงานของนายไบเดนสามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยเยียวยาเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19
          

ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่พรรครีพับลิกันเสนอวงเงินเพียง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ในการออกมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
          

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเป็นวงกว้างหลังโพลหลายสำนักบ่งชี้ถึงชัยชนะของนายไบเดน ซึ่งช่วยหนุนหุ้น 10 กลุ่มจากทั้งหมด 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้น นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรมที่พุ่งขึ้นกว่า 2%  

 

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง 0.75% แม้ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ก็ตาม
          

นอกจากผลการเลือกตั้งแล้ว นักลงทุนยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 4-5 พ.ย. และการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งดีกว่าเดือนส.ค.ที่ขยับขึ้นเพียง 0.6% และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1% โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินค้าจำพวกคอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
          

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค.จาก ADP, ดุลการค้าเดือนก.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนต.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.