แสนสิริพุ่ง! ปรับเป้าโอน4.3หมื่นล้าน รายได้เป็น 3.4 หมื่นล้าน

03 พ.ย. 2563 | 06:00 น.

แสนสิริ ปรับเป้าโอนปี 63 สู่ 43,000 ล้านบาท หลังสามารถผลักดันยอดโอนฯ 10 เดือนได้เกินเป้าหมาย พร้อมเขย่าเป้ารายได้เพิ่ม จาก 32,000 ล้านบาท เป็น 34,000 ล้านบาท

นายอุทัย  อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า แสนสิริได้พิจารณาปรับเป้าหมายยอดโอนปี 2563จากเดิมที่ตั้งไว้ 42,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 43,000 ล้านบาท โตขึ้น 37% จากปีก่อนที่มียอดโอนทั้งปีรวม 31,300 ล้านบาท หลังบริษัททำผลงานโอนในรอบ 10 เดือนของปีนี้พุ่งไปแล้วถึง 36,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นยอดโอนที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ของแสนสิริ และเติบโตขึ้นถึง 100% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนยอดโอนดังกล่าวยังคิดเป็น 86% จากเป้าหมายยอดโอนเดิมที่ตั้งไว้ 42,000 ล้านบาท จึงต้องมีการปรับเพิ่มประมาณการณ์เป้าหมายการโอนในปีนี้ใหม่

นอกจากนี้บริษัทยังได้ปรับประมาณการเป้าหมายรายได้รวมทั้งปีเพิ่มขึ้นจาก 32,000 ล้านบาท เป็น 34,000 ล้านบาทจากการมองเห็นแนวโน้มรายได้และกำไรที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังความสำเร็จของยอดโอนมาจากการตอบรับจากลูกค้าในความเชื่อมั่นในการเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน ด้วยมาตรฐานการออกแบบ คุณภาพโครงการตลอดจนบริการหลังการขายหรือ Sansiri Service ที่สามารถครองใจผู้บริโภค จากการเป็นผู้นำด้านการบริการในที่อยู่อาศัย และความมั่นใจสูงสุดด้านความปลอดภัยจาก LIV-24 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งที่ทำให้กลุ่มลูกค้าเลือกแสนสิริ

“ความสำเร็จจากผลงานการโอนในช่วง 10 เดือน แบ่งเป็นยอดโอนจากโครงการแนวราบ 14,900 ล้านบาท เติบโตขึ้น 43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมมียอดโอนล่าสุดสูงถึง 21,100 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 164% ผลงานมาจากการโอนคอนโดมิเนียมอาทิ โครงการ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ, คาวะ เฮาส์, เดอะ ไลน์ สุขุมวิท 101, เดอะ ไลน์ พหลฯ – ประดิพัทธ์ และ เดอะ ไลน์ วงศ์สว่าง เป็นต้น นอกจากนี้ล่าสุดบริษัทยังได้เปิดโอนส่งมอบคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่ อาทิ อาทิ XT เอกมัย, โอกะ เฮาส์, ดีคอนโด ธาร จรัญฯ, ลา ฮาบานา หัวหิน เป็นต้นโดยเฉพาะโครงการ “โอกะ เฮาส์” (oka HAUS)  คอนโดมิเนียมแบบ high rise ภายใต้แบรนด์เฮาส์ ที่เพิ่งเปิดโอนรับมอบโครงการในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมาปรากฎว่าลูกค้าให้การตอบรับการโอนเป็นจำนวนมาก มาจากความต้องการเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมที่โดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์ Urban Resort Condominiumกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมวิวสวยจากชั้น Rooftop ที่มองเห็นโค้งน้ำบางกระเจ้า โครงการยังแตกต่างด้วยเทคโนโลยี Smart Livingและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพื่อที่สุดแห่งการพักผ่อน ในราคาเริ่มต้นเพียง 3.9 ล้านบาทส่งผลให้มียอดโอนไปแล้วถึง 1,700 ล้านบาท %” นายอุทัย กล่าว

  แสนสิริพุ่ง! ปรับเป้าโอน4.3หมื่นล้าน รายได้เป็น 3.4 หมื่นล้าน
สำหรับคอนโดมิเนียมโครงการ “โอกะ เฮาส์” (oka HAUS) มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท จำนวนทั้งสิ้น 1,178 ยูนิต ประกอบด้วยห้องขนาด 1 – 3 ห้องนอนพื้นที่ตั้งแต่ 26.50 – 86.50 ตร.ม. บนพื้นที่โครงการประมาณ 5 ไร่ ซึ่งนอกจากความโดดเด่นในการเป็นรีสอร์ทคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่เป็นจุดแข็งของโครงการแล้วยังแตกต่างด้วยเทคโนโลยี Smart Living ที่ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบายตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโครงการ รวมทั้งพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างแท้จริงอาทิ  Retreat Room ที่มาพร้อมเก้าอี้นวด OSIM uInfinity Luxe,  Outdoor Theatre และ Hydrotherapy Pool สระว่ายน้ำระบบธาราบำบัดที่แรกของแสนสิรินอกจากนี้โครงการยังตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ถนนพระราม 4 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ และเป็นจุดเชื่อมต่อใจกลางเมือง ทองหล่อ – อโศก – สีลมและใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น K-Village และ EmQuartier ครบด้วยศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงพยาบาล สถานศึกษา โรงแรม ฯลฯ

ในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปี 2563 นี้ แสนสิริมีเป้าหมายในการโอนส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายใหม่ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 43,000 ล้านบาท อีกเพียง 7,000 ล้านบาทโดยคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะผลักดันสู่รายได้และกำไรในปีนี้ต่อไป นอกจากนี้ในระยะยาว บริษัทยังมียอดขายรอโอน (Backlog) (รวมโครงการร่วมทุนในคอนโดมิเนียม)มูลค่ารวมประมาณ 41,400 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายรอโอนจากโครงการภายใต้การพัฒนาของแสนสิริ 33,000 ล้านบาทและยอดขายรอโอนจากโครงการภายใต้การร่วมทุนอีก 8,400 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566 ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้แสนสิริเป็นอย่างดีและเสริมความแข็งแกร่งในทุกสภาวะเศรษฐกิจ” นายอุทัย กล่าว