ดาวโจนส์ ปิดบวก 139 จุด ขานรับข้อมูลศก.แข็งแกร่ง

29 ต.ค. 2563 | 23:46 น.

ดาวโจนส์ปิดบวก 139.16 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (29 ต.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่ขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีจะออกมาดีเกินคาด
          

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,659.11 จุด เพิ่มขึ้น 139.16 จุด หรือ +0.52% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,310.11 จุด เพิ่มขึ้น 39.08 จุด หรือ +1.19% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,185.59 จุด เพิ่มขึ้น 180.72 จุด หรือ +1.64%
          

ตลาดหุ้นนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 33.1% ซึ่งเป็นการขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ที่สหรัฐเริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2490 หรือกว่า 70 ปีก่อนหน้านี้ และขยายตัวได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 32% โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งทำให้มีการเปิดเศรษฐกิจ และเริ่มมีการจ้างงาน หลังจากที่สหรัฐได้ปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
          

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยลดลงสู่ระดับ 751,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 778,000 ราย
          

ทิม ฮิสกีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทอินเวอร์เนส คอสเซล ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า นอกเหนือจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งแล้ว ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าบริษัทเทคโนโลยีจะมีผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 3 เพราะได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องทำงานจากที่บ้านในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
          

ทั้งนี้ หุ้นบริษัทเทคโนโลยีในกลุ่ม FAANG พุ่งขึ้นถ้วนหน้า โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 4.92% หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นแอมะซอนดอทคอม บวก 1.52% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.7% และหุ้นอัลฟาเบทซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดขึ้น 3.05% ส่วนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่นๆนั้น หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 1.01% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 3.14%
          

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นเนื่องจากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาหุ้นดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ทะยานขึ้น 4.43% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.96% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดีดขึ้น 1.3% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ พุ่งขึ้น 4.74%          
          

นักลงทุนจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งในสหรัฐและยุโรปอย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้สหรัฐยังคงมียอดผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงสุดในโลก ส่วนในยุโรปนั้น รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้ ขณะที่รัฐบาลเยอรมนีประกาศล็อกดาวน์บางส่วน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 พ.ย.เป็นต้นไป เพื่อสกัดการแพร่ระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19
          

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐในสัปดาห์หน้า ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่า ชาวอเมริกันได้ออกมาลงคะแนนล่วงหน้าแล้วมากกว่า 77.4 ล้านคน ซึ่งมากกว่าสถิติการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ 58 ล้านคน และมีการคาดการณ์กันว่า ในปีนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ