เปิดแนวคิด“สี จิ้นผิง”พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน(จบ)

29 ต.ค. 2563 | 13:04 น.

เปิดแนวคิด“สี จิ้นผิง” พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน เน้นสุขภาพที่ดีรูปแบบบริหารสังคมแบบทำร่วมกัน และการรักษาความมั่นคงของชาติ

 

วันนี้( 29 ต.ค.63) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวคิดของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการสร้างหลักประกันและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (ตอนที่ ๒ - จบ ว่าด้วยการเน้นสุขภาพที่ดีของประชาชน รูปแบบบริหารสังคมแบบทำร่วมกัน และการรักษาความมั่นคงของชาติ) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้


๑. (ต่อจากประการที่ ๑-๔ ในตอนก่อน) ในประการที่ ๕ ดำเนินยุทธ์ศาสตร์ประเทศจีนที่มีสุขภาพแข็งแรง สุขภาพที่ดีของประชาชนถือเป็นเครื่องบ่งบอกความแข็งแกร่งและมั่งคั่งของประเทศชาติ ต้องพัฒนานโยบายด้านสุขภาพของประชาชน และต้องให้บริการด้านสุขภาพที่ต่อเนื่องและรอบด้านแก่สาธารณะชน ต้องปฏิรูประบบสาธารณสุขและการแพทย์ในเชิงลึก สร้างระบบสาธารณสุขและการแพทย์พื้นฐานที่มีเอกลักษณ์ของจีนอย่างรอบด้าน เสริมสร้างระบบบริการด้านสาธารณสุขและการแพทย์ขั้นพื้นฐานและการผลิตทีมแพทย์ในทุกสาขา 


หยุดการใช้ยาเพื่อรักษาโรคในวงกว้าง พัฒนาระบบหลักประกันของอุปทานยารักษาโรค ยึดมั่นในการเน้นการป้องกันเป็นหลัก จัดกิจกรรมด้านสาธารณะสุขเพื่อประเทศชาติอย่างเข้มข้น ริเริ่มแนวทางการใช้ชีวิตตามหลักสุขอนามัยและอย่างมีอารยธรรม ป้องกันและควบคุมโรครุนแรง ดำเนินยุทธศาสตร์เรื่องความปลอดภัยทางอาหาร ให้ประชาชนวางใจในอาหารที่รับประทาน ยึดมั่นในการใช้ยาสมุนไพรจีนควบคู่กับยาแผนปัจจุบันของตะวันตก 


สืบทอดและพัฒนากิจการยาสมุนไพรจีนและแพทย์แผนจีน ส่งเสริมกิจการด้านสาธารณสุขในสังคม พัฒนากิจการเพื่อสุขภาพ ส่งเสริมให้นโยบายด้านการมีบุตรและนโยบายด้านสังคมเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องมีความสอดคล้องแต่เชื่อมโยงกัน เพิ่มความเข้มข้นของการศึกษามาตรการพัฒนาประชากร รับมือปัญหาสังคมผู้สูงอายุ สร้างระบบนโยบายและสิ่งแวดล้อมทางสังคมที่ดูแลผู้สูงอายุ กตัญญูและเคารพผู้สูงอายุ ส่งเสริมให้เกิดการผสมผสานระหว่างการเลี้ยงดูและการรักษาโรคสำหรับผู้สูงอายุ รวมทั้งเร่งพัฒนากิจการและอุตสาหกรรมสำหรับผู้สูงอายุ  


อ่านประกอบ: 

เปิดแนวคิด“สี จิ้นผิง”พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน (1)

 

๒. ประการที่ ๖ สร้างรูปแบบบริหารสังคมแบบทำร่วมกัน บริหารร่วมกัน และแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน เสริมสร้างระบบบริหารจัดการสังคม พัฒนาระบบบริหารบ้านเมืองโดยกรรมการพรรคเป็นผู้นำ รัฐบาลเป็นผู้รับผิดชอบ สังคมร่วมสนับสนุน ประชาชนมีส่วนร่วม และมีกฎหมายเป็นหลักประกัน ยกระดับการบริหารบ้านเมืองโดยสังคมเอง ภายใต้กฎหมาย ใช้เครื่องมือที่มีความอัจฉริยะ และมีความเป็นมืออาชีพ เสริมสร้างระบบป้องกันและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคม 


แก้ปัญหาภายในของประชาชนอย่างถูกวิธี สร้างแนวคิดการพัฒนาแบบปลอดภัย เผยแพร่แนวคิดเรื่องชีวิตเป็นที่หนึ่งและความปลอดภัยเป็นที่หนึ่ง เสริมสร้างระบบความปลอดภัยสาธารณะ พัฒนาระบบความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยในการผลิตให้สมบูรณ์  ยับยั้งอุบัติเหตุที่มีการทำลายล้างขนานใหญ่ ยกระดับการป้องกันภัย การลดความรุนแรงของภัยอันตรายและเพิ่มความสามารถในการกู้ภัย เร่งสร้างระบบป้องกันความปลอดภัยในสังคม ทำการปราบปรามและลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมาย เช่น เรื่องลามกอนาจาร การพนัน ยาเสพติด ขบวนการใต้ดินและการหลอกลวง ฯลฯ 


คุ้มครองสิทธิทางร่างกาย สิทธิทางทรัพย์สิน และสิทธิในบุคลิกภาพของตัวบุคคล เสริมสร้างระบบบริการด้านจิตวิทยาในสังคม ปลูกฝังจิตวิญญาณทางสังคมในเรื่องความมั่นใจและให้เกียรติตนเอง ความอ่อนโยนและความมีเหตุผล ความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาตนเอง เสริมสร้างระบบบริหารในชุมชน ผลักดันหัวใจหลักของการบริหารจัดการในสังคมให้กระจายสู่ระดับพื้นฐาน ให้องค์กรในสังคมมีบทบาทที่แท้จริง เกิดเป็นการผสมผสานในด้านบวกระหว่างการบริหารจัดการโดยรัฐบาล การจัดระเบียบโดยสังคม และการปกครองตนเองของคนในชาติ 


 

๓.ประการที่ ๗ ดูแลปกป้องด้านการรักษาความมั่นคงของชาติอย่างมีประสิทธิภาพ  ความมั่นคงของประเทศเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างชาติ ดังนั้น การรักษาความมั่นคงของชาติจึงเป็นการรักษาผลประโยชน์พื้นฐานของประชาชนทุกชนชาติ จะต้องพัฒนายุทธศาสตร์การรักษาความมั่นคงของชาติและนโยบายการรักษาความมั่นคงของชาติ ยึดมั่นในการปกป้องความมั่นคงทางการเมืองของประเทศชาติ มีแผนงานเพื่อผลักดันการรักษาความมั่นคงด้านต่างๆ  เสริมสร้างระบบการรักษาความมั่นคงของชาติอย่างรอบด้าน 


พัฒนาหลักประกันเรื่องกฎหมายการรักษาความมั่นคงของชาติ ยกระดับความสามารถในการป้องกันและการยับยั้งเรื่องเสี่ยงภัย ป้องกันและทำลายกิจกรรมอันเป็นการบ่อนทำลาย การก่อการร้าย การแบ่งแยกทางชนชาติ และกิจกรรมสุดโต่งทางศาสนา เพิ่มความเข้มข้นในการศึกษาเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของชาติ ให้ประชาชนตระหนักในเรื่องความมั่นคงของชาติเพิ่มมากขึ้น ส่งเสริมให้สังคมทุกภาคส่วนเกิดการร่วมพลังอันยิ่งใหญ่เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติ 


บทสรุป สิ่งสำคัญที่สุดของการสร้างหลักประกันและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนคือ ต้องใส่ใจเรื่องผลประโยชน์ของประชาชน โดยต้องใช้ความพยายามสูงสุด ขณะเดียวกันต้องรู้จักประเมินความสามารถของตนเอง ทำงานทีละเรื่องและทำปีต่อปี ด้วยการยึดมั่นในหลักการการมีส่วนร่วมของทุกคน และให้ทุกคนเป็นผู้ได้รับประโยชน์ร่วมกัน 


ต้องยืนหยัดหลักการพื้นฐาน เน้นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบ ซึ่งสามารถชี้นำแนวทางการพัฒนาในอนาคตได้ รวมทั้งพัฒนาระบบบริการสาธารณะเพื่อสร้างหลักประกันพื้นฐานแก่ชีวิตประชาชน ตอบสนองความต้องการของประชาชนในด้านการยกระดับคุณภาพชีวิตซึ่งมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งเสริมความเสมอภาคและความยุติธรรมในสังคม อันก่อให้เกิดระบบบริหารจัดการสังคมที่มีประสิทธิภาพ มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ได้ประโยชน์ มีความสุขในชีวิต มีความมั่นคงเพิ่มขึ้น มีหลักประกันในชีวิตและมีความยั่งยืนมากขึ้