ม็อบฮ่องกงแพแตก ทะลักลี้ภัยต่างแดน หนี กม.ความมั่นคง

29 ต.ค. 2563 | 05:20 น.

สื่อฮ่องกงรายงานข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกจับกุมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง แกนนำการประท้วงวัยเรียน “โทนี จง” อายุ 19 ปี ใกล้สถานกงสุลสหรัฐในฮ่องกงเมื่อเร็ว ๆนี้ (27 ต.ค.) หลังจากมีรายงานข่าวว่า เขากำลังเตรียมยื่นเอกสารขอลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา

 

หนังสือพิมพ์ เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ สื่อใหญ่ในฮ่องกงรายงานว่า เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจากแผนกคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานตำรวจเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งเป็นหน่วยงานตั้งขึ้นใหม่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้บุกเข้าจับกุม นายจง ฮง-ลัม หรือโทนี จง อายุ 19 ปี หนึ่งในแกนนำของอดีตแนวร่วมนักศึกษาฮ่องกง ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานกงสุลใหญ่สหรัฐในฮ่องกง เมื่อวันอังคาร

โทนี จง

กลุ่มคลื่อนไหวในนาม "เฟรนด์ส ออฟ ฮ่องกง" เปิดเผยในเอกสารแจกจ่ายสื่อมวลชนว่า ก่อนที่นายจงจะ หายตัวไป ทางกลุ่มเฟรนด์ส ออฟ ฮ่องกง ได้ให้ความช่วยเหลือด้านเอกสารแก่เขาสำหรับขอยื่นลี้ภัยทางการเมือง ผ่านสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ และนายจงก็มีแผนจะเข้ายื่นเอกสารในวันอังคารแต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน

 

เบื้องต้นยังไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการจับกุมนักเคลื่อนไหวดังกล่าว ทั้งจากสำนักงานตำรวจฮ่องกง และกระทรวงการต่างประเทศจีน ในกรุงปักกิ่ง เช่นเดียวกับสถานกงสุลใหญ่สหรัฐ

 

ก่อนหน้านี้ นายจงและเพื่อนอีก 3 คน เคยถูกจับกุมเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ มาตรา 20 และมาตรา 21 ซึ่งห้ามดำเนินการ วางแผน มอบหมายงาน และเกี่ยวข้องกับกิจกรรมใด ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง แต่นายจงและพวกได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ฮ่องกงยังวุ่น ม็อบเงิบหลังสหรัฐปฏิเสธคำขอลี้ภัย

“โจชัว หว่อง” แท็กทีมม็อบไทย

ม็อบฮ่องกง ยิ่งต้าน ยิ่งแรง

วิเคราะห์ “ม็อบเยาวชนปลดแอก” ฮ่องกงโมเดล-ต่างชาติหนุนหลัง

 

การเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง ทำให้เกิดการกวาดจับนักกิจกรรมที่จัดการชุมนุมละเมิดกฎหมาย รวมทั้งบรรดาแกนนำที่ถูกมองว่าเป็นผู้ปลุกระดม ทำให้หลายคนพยายามหาช่องทางยื่นขอลี้ภัยในต่างประเทศ ทั้งนี้ นอกเหนือจากนายโทนี จง แล้ว ยังมีชาวฮ่องกงอีกเป็นจำนวนมากที่พยายามยื่นขอลี้ภัยไปยังต่างประเทศ

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า จุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวฮ่องกงที่กำลังมองหาแหล่งลี้ภัยทางการเมืองในต่างประเทศ คือ ประเทศออสเตรเลียและแคนาดา

 

รายงานข่าวระบุว่า ในปี 2563 นี้มีชาวฮ่องกงยื่นขอลี้ภัยไปยัง 5 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 181 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 141 คนในปี 2562 และ 62 คนในปี 2561 โดยในจำนวนดังกล่าวมีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายคนที่เคยถูกจับกุมในระหว่างการประท้วงเมื่อปีที่แล้ว ยื่นขอลี้ภัยด้วย

ม็อบฮ่องกงแพแตก ทะลักลี้ภัยต่างแดน หนี กม.ความมั่นคง

 

ข้อมูลในเดือนก.ย.พบว่า มีชาวฮ่องกงขอลี้ภัยไปยังออสเตรเลีย 136 คนซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มี 120 คน และในปี 2561 ที่มีเพียง 50 คน

 

ส่วนประเทศแคนาดา ข้อมูลล่าสุดในเดือนมิ.ย. ชี้ว่า มีชาวฮ่องกงขอลี้ภัยไปยังแคนาดารวม 25 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับสถิติในปี 2562 และ 2561 ที่มีเพียง  9 คน และ 2 คน ตามลำดับ

 

นอกจากนี้ ยังมีชาวฮ่องกงขอลี้ภัยไปยังประเทศอื่น ๆ อาทิ อังกฤษ  เยอรมนี และนิวซีแลนด์ แต่กระนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า มีชาวฮ่องกงกี่คนที่ประสบความสำเร็จในการยื่นขอลี้ภัย

รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า มีชาวฮ่องกงเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น ไต้หวัน และอังกฤษ ในระยะหลัง ๆ นี้ ด้วยวิธีการทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย

 

ยกตัวอย่าง เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีคู่สามีภรรยาที่เข้าร่วมการประท้วงในปีที่แล้ว และได้รับการยอมรับจากแคนาดาในฐานะผู้ลี้ภัย และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีนักศึกษาฮ่องกงที่ถูกตั้งข้อหาก่อจลาจล ได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในเยอรมนี เป็นต้น

 

แต่ขณะเดียวกัน ข่าวชาวฮ่องกงถูกปฏิเสธการยื่นขอลี้ภัยก็มี เช่นล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ในฮ่องกงมีข่าวว่า ผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงจำนวน 4 คนได้เข้าไปในสถานกงสุลสหรัฐเพื่อยื่นเอกสารขอสิทธิเป็นผู้ลี้ภัยในสหรัฐ แต่ปรากฏว่า สุดท้ายแล้วบุคคลทั้ง 4 ก็ถูกปฏิเสธคำร้อง โดยยังไม่ได้มีการเปิดเผยถึงเหตุผล

 

นอกจากนี้ เมื่อวันอังคาร (27 ต.ค.) ตำรวจฮ่องกงยังได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีการจับกุมตัวชาย 2 หญิง 1 อายุระหว่าง 17-21 ปี โดยทั้ง 3 มีความผิดฐานโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียที่ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบนับตั้งแต่เดือนก.ย. เป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรา 21 ของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง

 

แถลงการณ์ยังระบุว่า ตำรวจจะดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงฉบับใหม่ซึ่งผ่านการอนุมัติของรัฐสภาในเดือนมิ.ย. จนถึงขณะนี้ ได้มีการจับกุมผู้เรียกร้องประชาธิปไตยแล้วมากกว่า 10,000 คน โดยตำรวจระบุว่า กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงได้ก่อเหตุจลาจลหลายครั้งในปีที่ผ่านมา ทั้งมีการทำลายทรัพย์สินและทำร้ายตำรวจ รวมทั้งมีการวางเพลิงในสถานที่หลายแห่ง รวมถึงสถานีรถไฟใต้ดินด้วย