หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 28 ตุลาคม 2563
+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ลดลงจากการที่บริษัทพลังงานในสหรัฐฯ อพยพพนักงานและหยุดการผลิตน้ำมันดิบบริเวณอ่าวเม็กซิโกกว่า 294,000บาร์เรลต่อวันหรือคิดเป็น 16% ของกำลังการผลิตในอ่าวเม็กซิโก เพื่อรับมือกับพายุโซนร้อนซีต้าที่เคลื่อนตัวผ่าน
- ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดมีจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกสูงกว่า 43.9 ล้านราย สถานการณ์ยังคงไม่แน่นอนโดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป ที่ส่งผลให้หลายประเทศต้องกลับมาดำเนินมาตรการล็อกดาวน์และจำกัดการเดินทางอีกครั้ง
- หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 ต.ค. 63 ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 4.6 ล้านบาร์เรล ขึ้นไปแตะระดับ 495.2 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้ในภูมิภาคยังคงได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในมาเลเซียที่ต้องขยายเวลาควบคุมทางสังคมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศอีกสองสัปดาห์ไปจนถึงวันที่ 9 พ.ย. 63
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในประเทศอินเดียเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) หลังมีรายงานว่า บริษัทน้ำมันของสหรัฐที่ดำเนินงานในอ่าวเม็กซิโกได้ระงับการผลิตลงเกือบ 50% เนื่องจากอิทธิพลของพายุ "ซีต้า" ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 39.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 41.20 ดอลลาร์/บาร์เรล