วันที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา 14.30 น. นายธรรมนูญ แก้วคํา รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมหาสารคาม ขอส่งการแจ้งเตือนลักษณะอากาศ ในห้วงวันที่ 28-30 ต.ค. 63) ระบุว่า
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (27 ตุลาคม 2563) พายุไต้ฝุ่น “โมลาเบ” (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ประมาณ 675 กิโลเมตร คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 28 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน (พายุระดับ 3) ก่อนเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติด “พายุ” ลูกใหม่ ก่อตัว ทะเลจีนใต้ 1 พ.ย.
เช็กด่วน ! พายุ"โมลาเบ" กระทบจังหวัดไหน
ส่งผลทำให้ มีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรงจึงอาจทำให้ฝนตกหนัก และลมแรงในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จึงขอให้เตรียมความพร้อมเพื่อลดผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
1. แจ้งประชาชนในพื้นที่ให้ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สําหรับเกษตรกร ควรเตรียมการป้องกัน และระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และติดตามข่าว พยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน กรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด หากมี ข้อบ่งชี้จะเกิดสาธารณภัย (พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง) ให้รีบแจ้งเตือนภัยประชาชนในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
2. แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ จากปัจจัยต่างๆ ได้แก่ สภาพอากาศ และปัจจัยสภาพความเสี่ยงในพื้นที่ เพื่อประสานและบูรณาการหน่วยงาน เครือข่าย ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมพร้อมทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย และ แผนเผชิญเหตุ รวมถึงกําลังเจ้าหน้าที่ให้มีความพร้อมบรรเทาภัย ปฏิบัติงาน อํานวยความสะดวก และให้ความ ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24ชั่วโมง
3. ปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการ/แผนเผชิญเหตุ แผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอําเภอ และหนังสือสั่งการที่เกี่ยวข้อง
4. รายงานผลการปฏิบัติงานในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ และหากเกิด สาธารณภัย ขึ้นในพื้นที่ ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นทันทีที่เกิดเหตุ ให้จังหวัดมหาสารคาม ทราบ ทางโทรสารหมายเลข ๐-๔๓๗๗-๗๗๗๓ และรายงานทุกระยะจนกว่า สถานการณ์จะสิ้นสุด