พาณิชย์ หนุน‘ฟู้ดทรัค’  แก้ปัญหาว่างงาน

24 ต.ค. 2563 | 05:20 น.

พาณิชย์ หนุน ‘ฟู้ดทรัค’ แก้ปัญหาว่างงาน ยกระดับจากแผงลอยสู่ร้านอาหารเคลื่อนที่ เจาะตลาดผู้บริโภคทุกกลุ่ม  พร้อมผลักดันธุรกิจฟู้ดทรัคเป็นหลักประกันทางธุรกิจช่วยเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้น

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ เตรียมนำโมเดลธุรกิจร้านอาหารเคลื่อนที่ หรือ ‘ฟู้ดทรัค’ (Food Truck) มาช่วยแก้ปัญหาการว่างงาน สำหรับกลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ช่วงเวลาที่ผ่านมา ทั้งการเป็นเจ้าของประกอบกิจการเอง และเป็นลูกจ้างในธุรกิจ เบื้องต้น ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าประสานผู้ประกอบธุรกิจกลุ่มฟู้ดทรัคร่วมกันผลักดันให้เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน สามารถช่วยเหลือผู้ที่กำลังว่างงาน หรือกำลังมองหาโอกาสในการประกอบธุรกิจ

พาณิชย์ หนุน‘ฟู้ดทรัค’   แก้ปัญหาว่างงาน

 

พาณิชย์ หนุน‘ฟู้ดทรัค’   แก้ปัญหาว่างงาน

รวมถึงเร่งผลักดันให้ธุรกิจฟู้ดทรัคเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยการนำกิจการมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งกิจการฟู้ดทรัคมีราคารถยนต์และอุปกรณ์ที่สามารถประเมินมูลค่าได้อย่างชัดเจน ช่วยลดความเสี่ยงของสถาบันการเงินในการรับกิจการฟู้ดทรัคเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ส่งผลให้การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อทำได้ง่าย สะดวก เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเอสเอ็มอีได้ง่ายมากขึ้น   

พาณิชย์ หนุน‘ฟู้ดทรัค’   แก้ปัญหาว่างงาน

 

พาณิชย์ หนุน‘ฟู้ดทรัค’   แก้ปัญหาว่างงาน

โดย กรมฯ เตรียมจัดงาน ‘ฟู้ดทรัคมาร์ท’ (Food Truck Mart ) ระหว่างวันที่ 4 - 5 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นการจัดงานเกี่ยวกับธุรกิจฟู้ดทรัคครั้งแรกของกระทรวงพาณิชย์เพื่อกระตุ้นสร้างการรับรู้และความเข้าใจในรายละเอียดของธุรกิจฟู้ดทรัคภายในงานแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วน คือ การให้ความรู้แก่ผู้สนใจจะประกอบธุรกิจฟู้ดทรัค โดยกูรูด้านฟู้ดทรัคโดยเฉพาะ และ การออกงานแสดงสินค้า ‘ฟู้ดทรัคมาร์ท’ ณ บริเวณเต้นท์ตลาดนัด ภายในกระทรวงพาณิชย์ โดยมีผู้ประกอบการฟู้ดทรัคทั้งกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเข้าร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้า เพื่อแสดงศักยภาพและให้เห็นถึงรูปแบบการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีสถาบันการเงินเข้าร่วมให้คำปรึกษาแก่ผู้สนใจที่ต้องการลงทุนในธุรกิจฟู้ดทรัค เช่น ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน เอสเอ็มอีดีแบงก์ ฯลฯ เป็นต้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจฟู้ดทรัคทั่วประเทศประมาณ 2,500 คัน และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2,600 ล้านบาทต่อปี