ผลกระทบจากการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจไทย

28 ต.ค. 2563 | 05:25 น.

คอลัมน์ มันนี่ดีไอวาย โดย : ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด

วันนี้ผมขอเขียนถึงผลกระทบของการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่เกิดจากการปิดกั้นการเดินทางระหว่างประเทศ เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ว่า จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไรบ้าง

 

การท่องเที่ยวของไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปี 2545 ต่อเนื่องมา 17 ปี ก่อนจะเกิด Covid-19 ซึ่งมาจากปัจจัยหลักสองประการด้วยกันคือ 1.การเปิดเสรีทางการบินในปี พ.ศ. 2545 เกิดสายการบินแบบ Low Cost Airline และสายการบินต่างชาติ เข้ามาประกอบการภายในไทยได้มากขึ้นและ 2.การเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย หลังเศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้จำนวนชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น

 

เมื่อเปรียบเทียบนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้าในไทยในปี พ.ศ. 2549 กับปี พ.ศ. 2562 พบว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มจาก 950,000 คน เป็น 11,0000,000 คน หรือเติบโตมากกว่า 1,100% ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา และสัดส่วนของนักท่องเที่ยวชาวจีนต่อนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นจาก 6.9% เป็น 27.6%

 

ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมาอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างมากหากเทียบรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่อ GDP ของไทยปี 2549 กับปี 2562 พบว่า เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จาก 5.7% เป็น 11.5% ซึ่งยังส่งผลบวกทางอ้อมไปยังธุรกิจค้าปลีกภายในประเทศอีกด้วย

 

เมื่อเกิด Covid-19 ขึ้น ไทยเลือกที่จะใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อป้องการแพร่ของโรค โดยปิดกั้นการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวหายไปทันที และอาจใช้เวลาพอสมควรกว่าจะกลับมาดังเดิมโดยทาง SCB EIC คาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้าไทยปี 2563-2564 จะลดลงเหลือเพียง 6.7 และ 8.4 ล้านคนตามลำดับ

 

ผลกระทบจากการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจไทย

เทียบกับนักท่องเที่ยวปี 2562 ที่มีถึง 39.8 ล้านคน และต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี จึงจะทำให้นักท่องเที่ยวกลับไปใกล้เคียงระดับเดิมได้ ซึ่งจัดว่า เป็นผลกระทบที่รุนแรงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในอีกช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะถ้าไม่มีเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจอื่นมาช่วยเกื้อหนุนคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะหดตัวลง 7-10% ตามสัดส่วนของของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป

 

กลุ่มอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงคือ สายการบิน ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจโรงพยาบาลระดับบนที่รายได้หลักมีการพึ่งพาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจากต่างชาติในระดับสูง ขณะที่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทางอ้อม เช่น ธุรกิจเดินรถไฟฟ้า ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจสื่อสาร ที่มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ประมาณ 10%, 5% และ 3% ตามลำดับ ก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาเติบโตได้ในระดับที่ใกล้เคียงกับก่อนที่จะมี Covid-19 นั้น อาจจะขึ้นอยู่กับผลสำเร็จของการผลิตวัคซีน เพื่อป้องกันโรค Covid-19 ที่สามารถนำมาใช้ได้จริงและใช้ได้อย่างทั่วถึง เพื่อทำให้เปิดรับนักท่องเที่ยวได้อีกครั้ง นักวิเคราะห์คาดว่า วัคซีนจะเริ่มนำมาใช้ในไทยได้ช่วงครึ่งหลังปี 2564 เป็นต้นไป ซึ่งระหว่างที่รอคอยวัคซีนนั้น มาตรการของภาครัฐยังเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจไทยให้ข้ามพ้นไปจนกว่าจะกลับมาฟื้นตัวได้

 

ธุรกิจที่ภาครัฐต้องให้การช่วยเหลือเยียวยาอย่างเต็มที่คือ สายการบินและธุรกิจโรงแรมในจังหวัดที่พึ่งพาการท่องเที่ยวจากต่างชาติสูง เช่น เกาะสมุย ภูเก็ต พังงา กระบี่ หรือแม้กระทั่งกรุงเทพก็ตาม โดยในปี 2563 อัตราการเข้าพักของโรงแรมในจังหวัดดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่ตํ่ามาก ที่ 13% 16% 16% 18% และ 26% ตามลำดับ ในขณะที่โรงแรมในเชียงใหม่ หัวหิน พัทยา ได้รับผลกระทบน้อยกว่า โดยคาดว่าจะมีอัตราเข้าพักอยู่ที่ 40% 40% และ 33% ตามลำดับ (ที่มา: SCB EIC) ซึ่งน่าจะเกิดจากมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ

 

ผลกระทบของการท่องเที่ยวต่อตลาดหุ้นไทยนั้นก็รุนแรงเช่นกัน โดยพบว่า รายได้ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวต่างก็ปรับตัวลดลง และคาดว่า หลายบริษัทจะยังขาดทุนต่อเนื่องอีกในปี 2564 ทำให้ราคาหุ้นตกลงอย่างมากในปีนี้ เช่น หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว มีมูลค่าทางการตลาดลดลงจาก 104,012 ล้านบาท ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 เป็น 73,756 ล้านบาท ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2563 หรือลดลง 29% 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

IPO ต.ค. แตะ 4.2 หมื่นล้าน

เตรียมเปิดเก็บตก คนละครึ่ง หลัง10พ.ย.นี้

สบน.ถกรัฐวิสาหกิจเร่งอัดฉีดงบลงทุน

สรรรพากรจับมือ 11 แบงก์ เปิดตัว e-withholding TAX

 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับที่ 3,621 วันที่ 25 - 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563