นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รองผู้ว่าการ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สายงานยุทธศาสตร์และพัฒนา เปิดเผยว่า ในปี 64 กนอ. ได้มีการปรับแผนยุทธศาสตร์ให้สอดรับกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงและขยายตัวอย่างรวดเร็ว และยังเป็นโอกาสสร้างสรรโมเดลธุรกิจใหม่ที่สามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยกนอ.เริ่มนำระบบดิจิทัลแพลตฟอร์มมาใช้ในการดำเนินงาน และเตรียมพร้อมรองรับระบบ 5 จี (5G) ที่จะครอบคลุมพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี (EEC) ไม่ต่ำกว่า 50% ภายในปีนี้ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับภาคการผลิตไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ กนอ.ยังให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สินค้าไทยมีความได้เปรียบในตลาดโลกมากขึ้น รวมทั้งการร่วมมือกับผู้พัฒนานิคมฯ ปรับปรุงพื้นที่อุตสาหกรรม เพื่อรองรับการขยายตัวของอีอีซี โดยจากปัจจัยดังกล่าว กนอ. ได้กำหนดโครงการรองรับแผนยุทธศาสตร์ภายใต้งบประมาณ 1.2 พันล้านบาท ใน 42 โครงการ 5 แผนยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1.พัฒนาและยกระดับผลิตภัณฑ์/บริการ/ธุรกิจใหม่ เพื่อสร้างความมั่นคงให้องค์กร (Growth Strategy) จำนวน 12 โครงการ
,2.พัฒนาและบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืน (Green Strategy) จำนวน 13 โครงการ ,3.การยกระดับระบบการกำกับดูแลองค์กรสู่มาตรฐานสากล (Good Governance Strategy) จำนวน 1 โครงการ ยุทธศาสตร์ที่ ,4.การพัฒนาศักยภาพขององค์กรด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี (Great Strategy) จำนวน 9 โครงการ
และ5.เสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันของลูกค้าและนักลงทุน (Global Competitiveness Strategy) จำนวน 7 โครงการ กนอ.มุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนสามารถอยู่ร่วมกันได้ภายใต้บริบทของความยั่งยืน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานของคุณธรรมและความโปร่งใส
“กนอ.มุ่งเน้นพัฒนานิคมอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและการให้บริการสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบวงจร เพื่อเพิ่มสมรรถนะทางการแข่งขันของประเทศในภาพรวม โดยมุ่งเน้นการเป็นผู้นำใน 3 ลำดับแรกของกลุ่มประเทศอาเซียน”