ภัยแท็กซี่ ตำรวจรวบโชเฟอร์อนาจารนักศึกษาสาว

12 ต.ค. 2563 | 12:03 น.

รวบโชเฟอร์แท็กซี่ทำทีใจดีรับอาสาไปส่งหอพักนักศึกษาสาวขณะยืนรอ “แกร๊ป คาร์” หลงเชื่อ ระหว่างทางถูกอนาจารจับขา-หน้าอก-พยายามหอมแก้ม พูดชักชวนไปเที่ยว แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ก่อนเข้าแจ้งความ พบประวัติเคยก่อเหตุมาแล้วปี 61 


วันที่ 12 ตุลาคม 2563  พล.ต.ท.ภัครพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(ผบช.น.) ได้รับรายงานคดีที่น่าสนใจ จากพ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล รอง ผบก.อคฝ.รรท.ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ว่า พ.ต.ท.อนันท์ วงศ์คำ รรท.รอง ผกก.สส.สน.ทุ่งมหาเมฆ นำกำลังจับกุม นายรชานนท์ ศรีจูมพล อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ 545/2563 ลง 8 ต.ค.63 ในข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลผู้มีอายุตั้งแต่ 15 ปี ขึ้นไปโดยใช้กำลังประทุษร้าย” โดยสามารถจับกุมได้ ที่หน้าหอพักไม่มีชื่อ เลขที่ 88/767 ซ.เทียนทะเล 10 แขวงและเขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 12.40 น.ที่ผ่านมา


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ต.ค. เวลาประมาณ 19.00 น. ผู้ต้องหาซึ่งขับรถแท็กซี่รับจ้าง บริเวณ ซ.สุขุมวิท 1 ได้พบผู้เสียหายเป็นนักศึกษาสาว มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งกำลังยืนรอรถรับจ้างผ่านแอพลิเคชั่น( GRAB CAR ) อยู่บริเวณร้านสะดวกซื้อบริเวณดังกล่าว ต่อมาทางผู้ต้องหาจึงเข้าไปชักชวน และขอไปส่งผู้เสียหายที่หอพักโดยคิดราคาเหมาเพียง 40 บาท ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงขึ้นรถไปด้วยโดยนั่งด้านหน้าข้างผู้ต้องหาคนขับ เมื่อขับผ่านสี่แยกคลองเตย เข้า ถ.พระราม ๔ และช่วงนั้นเป็นเวลา 19.30 น. ผู้ต้องหาได้มาจอดรถบริเวณริม ถ.พระราม 4 หน้าอาคารศรีเฟื่องฟุ้ง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ


จากนั้นได้กระทำอนาจารผู้เสียหาย โดยจับแขน จับขา จับหน้าอก พยายามหอมแก้ม และพูดจาชักชวนผู้เสียหายไปเที่ยว พร้อมทั้งจะชวนไปโรงแรม แต่ผู้เสียหายปฏิเสธตลอดเวลาจนผู้ต้องหาเกิดความรำคาญ กระทั่งเวลา 20.10 น. ผู้ต้องหาจึงออกรถไปส่งผู้เสียหายที่หอพัก ก่อนทางผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้

 

 

ต่อมาทางตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตลอดจนสืบสวนหาข่าวกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ คือ นายรชานนท์ ซึ่งมีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าวอยู่แล้ว หนำซ้ำยังเคยก่อเหตุพูดจาลามกอนาจารและขอมีเพศสัมพันธ์ พร้อมข่มขู่ว่ามีปืน พื้นที่ สน.ตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 จนถูกจับกุมไว้ได้ ทำให้ทางผู้บังคับบัญชาเล็งเห็นถึงพฤติกรรมที่เป็นภัยสังคม จึงระดมกำลังจนสามารถจับกุมไว้ได้


สำหรับคดีนี้ต้องชื่นชมผู้เสียหายที่สติดีสามารถเก็บรายละเอียด รถ ตำหนิรูปพรรณ รวมถึง หลอกขอเบอร์โทรศัพท์ ขอไลน์ ผู้ต้องหา ไว้จนนำไปสู่การจับกุม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป