นายดิษทัต ปันยารชุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) เปิดเผยว่า PTT Trading หรือธุรกิจการค้าระหว่างประเทศในส่วนของการค้า LNG (แอลเอ็นจี) นั้น ปี 64 คาดว่าจะมีการค้าไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตันต่อปี โดยในปี 63 มีการค้าอยู่ที่ประมาณ 9 แสนตันต่อปี และในปี 62 มีการค้าอยู่ที่ 4 แสนตันต่อปี
ส่วนแนวโน้มสถานการณ์ของตลาด LNG นั้น ราคาปรับตัวสูงขึ้นโดย JKM Dec อยู่ที่ 5.485 เหรียญสหรัฐฯ/1 ล้านบีทียู (mmbtu) เนื่องจากใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาว (seasonal demand) ในเอเชียเหนือ (North Asia) รวมถึงการหยุดชะงักหรือการขาดตอนโซ่อุปทาน (Supply disruption) จากการปรับปรุงแหล่งผลิต Gorgon บางส่วน ทำให้ปริมาณการผลิตหายไปจากระบบประมาณ 2 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม คาดว่าแรงซื้อจากเอเชียเหนือในสัปดาห์นี้จะลดลงอันเนื่องมาจากวันหยุดยาวในประเทศจีน และเกาหลีใต้ รวมถึงปริมาณสินค้าคงคลัง (inventory) ในยุโรปที่ยังอยู่ในระดับสูงและปริมาณการส่งออก LNG จากสหรัฐฯเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น หลังจากปิดซ่อมบำรุงเรื่องจากผลกระทบของเฮอริเคน
ขณะที่แนวโน้มการดำเนินงานของหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ หรือ Trading ปีนี้ คาดว่าปริมาณการค้าจะลดลงจากปี 62 ประมาณ 8-10% ซึ่งเป็นไปตามการใช้น้ำมันของโลกที่ลดลง และความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยคาดว่าปริมาณเทรดดิ้งของ ปตท.ปี 64 จะกลับมาเท่ากับปี 2562 ซึ่งขณะนี้ ปตท.พยายามขายน้ำมันระหว่างประเทศ (out-out) เพิ่มขึ้นจะมีสัดส่วนตามเป้าหมายครึ่งหนึ่งของการค้าระหว่างประเทศปีหน้า
จากที่ปีนี้มีสัดส่วน 48% ส่วนหนึ่งเกิดจากการเปิดสำนักงานการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นทั้งในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา และเมืองอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นสำนักงานเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากเดิมที่มีอยู่แล้วในสิงคโปร์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และเมืองเซี่ยงไฮ้ สหรัฐอเมริกา ทำให้สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา Trading Around the Clock นับเป็นก้าวสำคัญของ ปตท.ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล ทำให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการต่อรองและมีความมั่นคงด้านพลังงานเพิ่มมากขึ้น