SEAC รีเฟรมธุรกิจ พุ่งเป้าสู่ EdTech

07 ต.ค. 2563 | 04:00 น.

SEAC รีเฟรมธุรกิจ ขับเคลื่อนองค์กรด้วยยุทธศาสตร์ EdTech ปรับมุมคิดด้วย Outward Mindset พร้อมลุยพัฒนา “คนในองค์กร” ควบคู่ “คนในสังคม”

ผลจากวิกฤตการณ์ช่วงที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่าอนาคตเป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยาก ไม่มีใครมีคำตอบแน่ชัด สิ่งที่ทำได้คือการโอบกอดความไม่แน่นอน แล้วปรับตัวให้ทัน จนอาจเรียกได้ว่าวิกฤตนี้เป็นเสมือน “ตัวเร่ง” ให้ SEAC (เอสอีเอซี) ต้องรีเฟรมแบบติดสปีด ปรับ Business Model เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเรียนรู้จากเรื่องราวต่างๆ ที่เข้ามา เร่งมองหานวัตกรรมและกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงตามสภาวะการณ์อย่างทันท่วงที 

 

ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าส่งเสริมให้คนไม่หยุดที่จะเรียนรู้ เพื่อเติมเต็มเป้าหมายในทุกมิติของชีวิตพร้อมชี้ชัดว่าหลังจากวิกฤตยิ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนและองค์กรต้องเปลี่ยนแปลงไม่จำกัดแค่เฉพาะ “คนในองค์กร” แต่รวมถึง “คนในสังคม” ทั่วโลก

 

วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในภาครวมธุรกิจอย่างมาก มีทั้งธุรกิจที่ต้อง “ปิดตัว” และ “เกิดใหม่” ในทุกอุตสาหกรรม เกิดอัตราการว่างงานที่ไต่ระดับเพิ่มขึ้น สำหรับประเทศไทยมีสถิติชี้ว่า มีผู้ถูกเลิกจ้างสูงถึง 8.4 ล้านคน ไม่รวมกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ระดับปริญญาตรี – โท ที่กำลังเตรียมเข้าสู่ตลาดแรงงานอีกกว่า5.2 แสนคน ซึ่งอาจกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงว่างงาน ส่งผลให้เกิดการแย่งชิงตำแหน่งงานในตลาดอย่างเข้มข้น จนเกิดเป็นคำถามของทั้งองค์กรและนักศึกษาที่กำลังจะจบว่า “ทักษะที่เรียนมาพอเพียงต่อการทำงานหรือไม่ ทำให้ไปต่อได้หรือเปล่า?” ในขณะที่บางองค์กรที่ไม่มีนโยบายลดคน ก็จะมองว่าต้องติดสปีดในการพัฒนาคนที่ทำงานอยู่อย่างไรในช่วงนี้ เพื่อให้พวกเขาเป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าต่อ และไปได้ไกล เมื่อวิกฤตคลี่คลาย

SEAC รีเฟรมธุรกิจ พุ่งเป้าสู่ EdTech

นางอริญญา เถลิงศรี กรรมการผู้จัดการ SEAC (Southeast Asia Center) ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแห่งภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า สำหรับ SEAC กับช่วงวิกฤตการณ์ที่ผ่านมานี้ บริษัทฯ ยังคงพัฒนาและยกระดับศักยภาพของคนไทย ภายใต้พันธกิจ EMPOWER LIVES THROUGH LEARNING ที่เร่งสร้างทักษะผ่านการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อตอบทุกเป้าหมายของการใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่กับการวางกลยุทธ์และโรดแมปในการรุกตลาดการเรียนรู้ผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ Organizational and People Transformation ที่ยังเน้นการให้คำปรึกษา และโซลูชั่นที่มีบริบทเฉพาะตัวเหมาะสมกับแต่ละองค์กร ที่ต้องการพัฒนาขีดความสามารถสู่การแข่งขันในตลาดระดับสากล ผ่านการพัฒนาผู้นำและบุคลากร 

Workforce Capability Development คือ การเดินหน้า Reskill และ Upskill ทั้งเรื่องของวิธีคิด (Mindset) และทักษะที่จำเป็น (Skillset) ให้กับกลุ่มคนทำงาน ผ่าน YourNextU โมเดลการเรียนรู้แบบ Subscription รวมถึงการต่อยอดวิสัยทัศน์ให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิต และบิสสิเนสโมเดลใหม่ตอบโจทย์ New Generation และ Capability Development ขยายธุรกิจ สู่กลุ่มเด็กและเยาวชน 

 

ในครั้งนี้ SEAC ได้รีเฟรม (Reframe) โมเดลธุรกิจรูปแบบการนำเสนอสินค้าและบริการ เพื่อให้สนองต่อสถานการณ์ความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป

 

SEAC วางโพซิขั่นตัวเอง เป็นผู้เล่นหลักใน Education Technology (EdTech) Ecosystem ที่นำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการเรียน-การสอนของ SEAC เราพบว่า มี 3 เทรนด์การเรียนรู้                     ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น 1. พฤติกรรมของลูกค้าสะท้อนภาพความต้องการเรียนรู้แบบ Just in Time Learning เพื่อนำไปใช้แบบ Just In Time หรือรูปแบบการเรียนรู้ที่เรียนวันนี้ใช้วันถัดไปกันมากขึ้น หรือ เรียนตอนนี้ คืนนี้ เอาไปใช้พรุ่งนี้ได้เลย มุ่งเน้น How-to ที่ตอบสนอง Emergent Needs ของคนที่ต้องเผชิญกับรูปแบบธุรกิจ การบริการและการทำงานที่เปลี่ยนไปได้ทันที 2. การเรียนรู้ที่มุ่งเน้นเป้าหมาย (Purpose-driven) เมื่อคนมองเห็นความไม่แน่นอน คนเริ่มมองไปไกลขึ้นว่า หากอยากจะทำอาชีพนี้ต่อ มีเป้าหมายด้านการทำงานแบบนี้ ต้องทรานส์ฟอร์มตัวเองอย่างไร ต้องอัพเกรดทักษะไหนบ้างเพื่อไปต่อในโลกใหม่ 

 

และ 3. การเรียนรู้แบบผสมผสาน (Truly Blended) เพราะกลัวตนเองจะตกงานและสูญเสียรายได้ ทำให้การเรียนรู้มีมิติมากกว่าในอดีต ในช่วงที่มีการปิดเมืองจีน กว่า 70% ของประชากรในประเทศจีนตื่นตัวในการเรียนรู้และมองหาเรื่อง Blended Learning เช่นเดียวกันคือกว่า 68% ของคนในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ลุกขึ้นมาหาคอร์สพัฒนาทักษะเรียนรู้แบบผสมผสาน แบบที่คนไม่จำเป็นต้องนั่งเรียนออนไลน์อย่างเดียวแล้ว 

ในวันนี้ มีแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่รวมรูปแบบการเรียนหลากหลายทั้ง ห้องเรียนเสมือนจริง แบบ Webinars ตลอดจนสามารถทำแบบประเมินวัดความเข้าใจออนไลน์ มีการโค้ชติวตัวต่อตัว ที่แม้จะอยู่บ้าน  แต่ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์การเรียนได้ไม่ต่างจากการไปเรียนในห้องเรียน เพราะในโลกดิจิตัล การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดแค่เรียนในห้องเรียนอีกต่อไปแล้ว แต่คนมองหาการเรียนรู้แบบ Multichannel และเข้าถึงรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลายได้ที่ทำให้คนรู้สึกมีส่วนร่วมและสนุกไปกับการเรียนรู้

 

เทรนด์เหล่านี้คือโจทย์ที่ SEAC นำมา Reframe ธุรกิจ ยกตัวอย่างช่วง Lockdown เราเองก็ได้ยกห้องเรียนทั้งหมด ไปอยู่บนออนไลน์แพลตฟอร์มหรือการสอนแบบ “Virtual Classroom” ที่ยังเน้นเรื่องการกระตุ้นผู้เรียน ให้เกิดEngagement และ Participation จนเกิดเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่การเรียนแบบ One-way ในภาพเดิมๆ พร้อมกันนี้เรายังได้คัดสรรหลักสูตร Essential Skills หรือ ทักษะที่จำเป็นและสอดคล้องกับความต้องการ                              ในสถานการณ์ปัจจุบัน จำนวนมากเข้ามาช่วย Reskill และ Upskill คนไทยให้เกิดความพร้อม เพื่อให้สามารถอยู่รอดท่ามกลางโลกปัจจุบัน โดยล่าสุด YourNextU มีหลักสูตรทั้งหมดมากกว่า 300 หลักสูตรจากการร่วมมือสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศ

 

นางสาวนิภัทรา ตั้งพจน์ทวีผล Executive Director SEAC กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของเยาวชนไทย                          SEAC ได้คำนึงถึงว่า EdTech มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา ดังนั้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง                               ในการมีส่วนร่วมเรื่องการยกระดับการศึกษาไทย SEAC ได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำต่างๆ เพื่อศึกษาและวิจัยแนวทางในการพัฒนาทรัพยากร “คน” โดยใช้ YourNextU เป็นตัวนำร่องเพื่อ Reskill & Upskill เติมเต็มทักษะสำคัญ Essential Skills หรือ “กึ๋น” ในการใช้ชีวิตอย่างต่อเนื่อง สู่การยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของคนไทยให้เทียบเท่าระดับสากล 

 

ส่วนหนึ่งคือการดำเนินการผ่าน General Education หรือ GenEd เพื่อสร้างคุณภาพของเยาวชนไทยให้สามารถปรับตัวต่อยุคปัจจุบันได้ทันท่วงที ไม่ว่าเยาวชนไทยจะวางแผนดำเนินธุรกิจของตัวเอง ทั้งสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี การรับช่วงต่อจากธุรกิจครอบครัว หรือการเข้าทำงานในองค์กรต่างๆ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับภาคการศึกษา เพื่อพัฒนาและยกระดับศักยภาพการศึกษาและคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ ทั้งคนในองค์กร นักศึกษา นักวิจัย และคนทั่วไป (Non-Degree) ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) คณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น รวมทั้งองค์กร Research University Network (RUN)               ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มนักวิจัยไทยจาก 8 มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย และเร็วๆ นี้จะมีการร่วมมือกับอีกหลากหลายสถาบันทั่วประเทศ

 

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าแนวคิดที่เข้ามาช่วยให้ SEAC ฝ่าฟันวิกฤต และกลับมองว่ายิ่งมีวิกฤต ยิ่งทำให้แข็งแกร่งได้นั้นเป็นเพราะ Outward Mindset ซึ่งในประเทศไทย SEAC เป็นตัวแทนของสถาบัน Arbinger ในการนำเสนอโปรแกรมOutward Mindset มาจัดโปรแกรม Outward Mindset ให้กับบุคลากรภายในองค์กร อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด(มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) บริษัท วีนิไทย จำกัด(มหาชน) บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทนันยางเท็กซ์ไทล์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด(มหาชน) เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท แอมเวย์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และบริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด