>> การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กลายเป็น Talk of the Town เมาธ์กันทั่วโลก ในเรื่องที่ป๋าแกเคยปรามาสหรือสบประมาทเรื่องโรคระบาดนี้เอาไว้มากมาย แต่สุดท้าย ป๋าแกกลายมาเป็นผู้ป่วยติดเชื้อเอาซะเอง หรือบางทฤษฎีก็บอกว่า ป๋าแกแกล้งทำเป็นติดเชื้อ เพื่อยื้อเวลาการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย. นี้ออกไป ...บางคน ถึงขนาดพูดว่า ป๋าแกแกล้งติดเชื้อ แต่รักษาหายรวดเร็ว เพื่อดึงคะแนนเสียงกลับมาจากคู่แข่ง
>> อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ยังเป็นประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐอเมริกา ทุกท่าทีและทุกการตัดสินใจของทรัมป์ ก็ยังเป็นท่าทีของประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นดัชนีหุ้นสหรัฐ ราคานํ้ามันดิบ ราคาทองคำ ก็ยังผูกอยู่กับความเคลื่อนไหวของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ไม่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งอิทธิพลโดยตรงกับตลาดหุ้นไทยอยู่เช่นเดิม
>> ที่เจ๊เมาธ์เล่ามา เพื่อบอกว่า ปัจจัยต่างประเทศติดตามได้ ...แต่อย่าหมกมุ่นเกินไปเพราะหุ้นไทยที่ราคาถูก P/E สวยๆ ผลตอบแทนดีๆ มีเต็มตลาดเลยค่ะ จะทำ DCA หรือจะแบ่งไม้ ก็สะสมได้ทั้งนั้น สำคัญว่า ต้องพิจารณาถึงความสามารถในการทำกำไรและการแข่งขันเท่านั้นก็พอ เรื่องปัจจัยภายนอก เรื่องฝรั่งอย่าไปสนใจมาเกินไปนะคะ คริคริ
>> STGT หุ้นถุงยางเทพ เอ๊ยย...ถุงมือยางเทพตัวนี้ ยังผูกตัวเองอยู่กับโรคโควิด-19 ถึงแม้นักวิเคราะห์จากหลายสำนักออกมาให้ความเห็นตรงกันว่า ความต้องการถุงมือยางทางการแพทย์ จะอยู่ไปจนถึงปี 2565 ซึ่งหมายความว่า ตลอดปี 2564 โรงงานผลิตถุงมือยางของ STGT จะเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตไปตลอดปี 2564 สบายใจหายห่วง “เสี่ยยักษ์ใหญ่” เขาเลยหล่ะ
>> แม้ว่า บล.กสิกรไทย ให้เป้าหมาย STGT เอาไว้สูงถึง 116 บาท แต่ก็นั้นหละ....ของที่ประเมินเอาไว้ในอนาคต ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นตามการคาดการณ์เอาไว้เสมอไป วันไหนที่วัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาใช้ได้จริงๆ ถุงมือยางก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้น โควิด-วัคซีน จึงเป็นตัวแปสำคัญกับราคาหุ้น STGT มากกว่าเรื่องอื่น
>> SVI ของ เสี่ยพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ แรงมาหลายวันโดยมีสาเหตุการเป็นหุ้นที่ราคาตํ่าเมื่อเทียบกับค่า P/E ที่มีแค่ 19-20 เท่า ซึ่งถ้าเทียบกับหุ้นในกลุ่มเดียวกันอย่าง DELTA KCE และ HANA ที่มีค่าเฉลี่ยที่สูงถึง 30 เท่า …. บล.บัวหลวง มองว่ากำไรหลักในไตรมาส 3/63 จะขยับขึ้นอยู่ที่ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาส 2/63 ขยับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 5 บาท/หุ้น ...บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ปรับราคาเป้าหมาย SVI ขึ้นเป็น 5 บาท เช่นเดียวกันอ้างอิงจากคำสั่งซื้อเพิ่ม เนื่องจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ล่าสุดมาจากจีนและญี่ปุ่น และการเพิ่มกำลังการผลิตที่ สโลวาเกียและกัมพูชา...เอาเป็นว่า ถ้าจะขึ้นก็ขึ้นกันให้มันยาวๆ ไปเลย อย่าแค่มาให้อยากแล้วจากไปนะคะ อิอิอิ
>> TASCO หุ้นยางมะตอยที่ ถูกเรื่องการเมืองระหว่างประเทศเล่น จนไปไม่เป็น แต่ล่าสุด ดูเหมือนจะตั้งหลักได้ที่ 16.00 บาท ได้แล้วค่ะ เพราะตอนนี้ถ้าดูราคาหุ้นผ่านทางกราฟเทคนิค จะเห็นว่า RSI ที่เคยจมลงไปสู่แนว Oversold เริ่มยกตัวขึ้นมาแล้ว “เจ๊เมาธ์” มองว่า การกลับตัวของราคาหุ้นที่เกิดขึ้น เป็นเพียงแค่การปรับฐานชั่วคราวเท่านั้นค่ะ เพราะหลังจากการปรับฐานราคาใหม่ ราคาหุ้นก็คงจะมีโอกาสที่จะนิ่งไปอีกนาน ประมาณว่า เล่นเก็งกำไรได้นะคะ แต่ถ้าจะสะสมยาว...ต้องแบ่งไม้เล่นค่ะ
>> คาราบาวกรุ๊ป (CBG ) ราคาหน้ากระดาน ขยับขึ้นเรื่อยๆ มีเรื่องของกำไรจากผลการดำเนินงานเป็นตัวดึงดูดความสนใจ ซึ่งล่าสุด บล.เคทีบี ได้ประเมินรายได้ของไตรมาสที่ 3/63 เอาไว้ที่ 908 ล้านบาท ปี 2564 จะเป็นปีทองของ CBG ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรสุทธิสูงถึง 4,459 ล้านบาท โดยมีเครื่องดื่มวิตามินป้องกันโรคที่กำลังเป็นกระแสอย่าง Woody C+Lock ที่คาดว่า จะทำรายได้ในปี 2564 ได้สูงถึง 1,018 ล้านบาท เป็นหัวหอกสำคัญ...บล.เคทีบี ให้เป้าราคาสูงถึง 170 บาท/หุ้น ซึ่งเจ๊เมาธ์เอง ก็มองว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ระยะสั้น ๆ นี้ 130 และ 140 บาท เป็นราคาที่เป็นไปได้มากที่สุดค่ะ ถ้ามองไกลกว่านี้ ค่อยมาว่ากันอีกทีนะคะ
>> หุ้นอะไรหรือจะสู้หุ้น “AEC” ของ “ประพล มิลินทจินดา” วิ่งขาขวิด 13 ซิลลิ่ง จากหุ้นไม่กี่สิบสตางค์ ขึ้นมาราธอน วันนี้จ่อ 50 สตางค์...หุ้นธุรกิจหลักทรัพย์ ที่ไม่ได้ทำธุรกิจเหมือนโบรกเกอร์ทั่วๆ ไป พอร์ตรายย่อย ก็ขายออกไปหมด งานวาณิชธนกิจ ไม่มีอะไรออกมา ช่วงที่ถูกก.ล.ต.สั่งหยุดพักธุรกิจไป 2 อาทิตย์ ลูกค้าก็ย้ายออกไปซื้อขายที่โบรกเกอร์อื่นหมด...เจ๊เมาธ์จึงมองไม่เห็นทางอื่นใด ที่สร้างรายได้ ได้เลยจริง ๆ แล้วหุ้นวิ่งสู้ฟัดมาขนาดนี้ มันมีอะไรซ่อนอยู่ ...มองได้แค่ การเปลี่ยนเจ้าของ ยกเครื่องทีมบริหารใหม่ เท่านั้นเองจริงๆ นะ