พาณิชย์จับมือ ธ.ก.ส. ใช้บล็อกเชนตรวจสอบสินค้าเกษตร

06 ต.ค. 2563 | 07:14 น.

“พาณิชย์”จับมือ ธ.ก.ส. ขยายกลุ่มผู้ใช้งาน ขับเคลื่อนระบบ TraceThai.com ตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรอินทรีย์ด้าน ธ.ก.ส. มีเครือข่าย ฐานลูกค้าประมาณ 5 หมื่นราย  เน้นกลุ่มเกษตรอินทรีย์

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรอินทรีย์ผ่าน TraceThai.com เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และประชาสัมพันธ์การใช้งานระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรอินทรีย์ ภายใต้โครงการประยุกต์ใช้บล็อกเชนเพื่อยกระดับเศรษฐกิจการค้า ทั้งการสรรหาและคัดกรองเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน หรือผู้ประกอบการด้านเกษตรอินทรีย์ที่เหมาะสมเข้าร่วมโครงการ การจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ในการใช้งานระบบ TraceThai.com ให้แก่กลุ่มเป้าหมายการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ในการขับเคลื่อนระบบ TraceThai.com ตลอดจนการเชื่อมโยงข้อมูล รายงานและสถิติในภาพรวมที่ได้จากระบบ TraceThai.com เพื่อร่วมกันสังเคราะห์ ประมวลผลข้อมูลและใช้ประโยชน์ในการวางแผนเชิงนโยบายส่งเสริมการค้าเกษตรอินทรีย์ของไทย

พาณิชย์จับมือ ธ.ก.ส.  ใช้บล็อกเชนตรวจสอบสินค้าเกษตร

 

ด้านน.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ความร่วมมือ ระหว่าง สนค. กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อร่วมกันในการส่งเสริมและผลักดันให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการสินค้าอินทรีย์ เข้ามาใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตรอินทรีย์ผ่าน TraceThai.com โดยตั้งเป้าเพิ่มให้ได้ 1,000 ราย ภายในปี 2564

พาณิชย์จับมือ ธ.ก.ส.  ใช้บล็อกเชนตรวจสอบสินค้าเกษตร

โดยการนำระบบบล็อกเชนมาใช้ในปัจจุบัน ได้นำร่องที่สินค้าข้าวอินทรีย์ มีเกษตรกรเข้าร่วมแล้ว 7 ราย และมีสินค้าที่ได้นำตราสัญลักษณ์ TraceThai ไปติดที่ตัวสินค้าแล้ว ซึ่งผลการทดลองตลาดปรากฏว่า ผู้บริโภคมีความมั่นใจว่าสินค้ามีที่มาที่ไป มีข้อมูลปลูกที่ไหน ใครผลิต ใครรับรองมาตรฐาน โดยสแกนคิวอาร์โค้ด หรือนำเลขล็อตการผลิตบนฉลากไปตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ TraceThai.com ก็รู้เส้นทางของสินค้ารายการนั้นได้ทันที

ทั้งนี้ การนำระบบบล็อกเชนมาใช้ตรวจสอบย้อนกลับ นอกจากเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างการยอมรับให้กับสินค้าเกษตรของไทยแล้ว ยังเป็นตอบสนองความต้องการของตลาดปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับอาหารปลอดภัย หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งการมีระบบตรวจสอบย้อนกลับ สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ ทำให้สินค้าเกษตรอินทรีย์ของไทย ได้รับการยอมรับมากขึ้น

พาณิชย์จับมือ ธ.ก.ส.  ใช้บล็อกเชนตรวจสอบสินค้าเกษตร

  สำหรับการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรอง TraceThai สนค. จะร่วมมือกับโมเดิร์นเทรด เช่น เทสโก้ โลตัส วิลล่ามาร์เก็ต และซีพีออลล์ ในการเปิดบูธจำหน่ายสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อตรวจสอบสินค้า และซื้อสินค้า ส่วนในต่างประเทศ จะหารือกับสถานทูต โดยเน้นประเทศที่เป็นตลาดนำเข้าสินค้าอินทรีย์ เช่น สหภาพยุโรป (อียู) ตะวันออกกลาง สหรัฐฯ ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เพื่อชี้แจงระบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และหารือทางออนไลน์กับผู้ซื้อ ผู้นำเข้า เพื่อนำเสนอสินค้า ดูระบบตรวจสอบ และเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้า