พลังบวกแม่ทัพ 'The Coral' เลาจน์ ผลักดันองค์กรเดินหน้า

จากผลกระทบโควิด -19 ที่ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวบาดเจ็บสาหัส บางรายถึงขั้นต้องหยุดกิจการ บางรายยังฮึดสู้ "ณปภัช ทรัพย์สุนทรกุล" หรือ "คุณเบิร์ด" เจ้าของกิจการ โรงแรม Always Phuket Le Coral Resort โรงแรม ภายใต้ บริษัท คอรัล เอ็กซ์เซคคิวทีฟ รีสอร์ท จำกัด และ ห้องรับรอง The Coral Executive Lounge ภายใต้ บริษัท ดิเอ็กซ์เซคคิวทีฟ เล้าจ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นอีกหนึ่งนักสู้ในธุรกิจท่องเที่ยว ที่ไม่ยอมแพ้ และยังมีพลังบวกที่พร้อมเดินหน้าธุรกิจอย่างเต็มที่

"คุณเบิร์ด" เชื่อว่า อย่างไรเสียเรื่องของการท่องเที่ยว ยังเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง...เราอยากไปสวิส อยากไปทะเล ดูแค่ภาพไม่ได้ เรายังต้องเอาตัวเราไป ต้องเอาตัวไปสัมผัส ไม่งั้นมันไม่จบ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การท่องเที่ยวกลับมา การท่องเที่ยวไม่มีวันตาย 

เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผู้บริหารหญิงคนนี้กำลังทำ คือ การประคองธุรกิจ อย่างน้อยๆ อีก 1 ปี เพื่อรอวันที่ทุกคนจะสามารถกลับมาเดินทางไปไหนมาได้ได้อีกครั้ง

"เราจะประคับประคองทุกส่วนให้ไปด้วยกัน พนักงานเดิมเรามี 1,000 กว่าคน ตอนแรกไม่มีใครออกเลย เราจ่ายเงินเดือน 50% ซึ่งตอนนี้ยังต้องทำไปอีกระยะหนึ่ง แต่ตอนหลังเราก็ไม่ไหว ตอนนี้เหลือพนักงานราว 300 คน บางคนอยากออกไปทำธุรกิจของตัวเอง บางคนก็ยังรอวันที่เราจะเรียกตัวกลับ เพื่อมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ Coral กลับมาเปิดให้บริการห้องรับรองในประเทศแล้ว 6 สนามบิน คือ ภูเก็ต หาดใหญ่ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย และ อุดรธานี"

ผู้นำ Coral เล่าว่า ได้ถือโอกาสในครั้งนี้ปรับปรุงองค์กร จากเดิมที่งานล้นไม่มีเวลา ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสที่กลับมาดูรายละเอียด ปรับปรุงและพัฒนาทุกๆ ส่วนงาน ปรับโครงสร้างธุรกิจทุกอย่างให้กระชับ ปรับการทำงานให้เร็ว พนักงานต้องพัฒนาให้มี Multi Skill ซึ่งทุกคนก็ยินดีที่จะเดินไปด้วยกัน เช่น บางคนเคยรับจองอย่างเดียว ตอนนี้ก็สามารถดูแลงานโอปอเรชั่นได้ด้วย ขายได้ด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการกรุ๊ปปิ้งธุรกิจ โดยเฉพาะการขาย และการทำมาร์เก็ตติ้ง ซึ่ง Coral มีธุรกิจหลากหลาย ทั้ง คอรัลเฮ้าส์ ฟู้ดฮอลล์ คอรัลคาเฟ่ ร้านยา และโรงแรมที่หาดนาใต้ ภูเก็ต ซึ่งเป็นห้องสวีท 58 ห้อง แต่ตอนนี้โรงแรมยังเปิดให้บริการไม่ได้ จากเดิมที่มีเป้าจะเปิด 2 ตุลาคม แต่ตอนนี้ต้องขยับออกไปออกไปก่อน

ส่วนของห้องรับรองในสนามบินซึ่งกลับมาเปิดให้บริการแล้ว ก็พยายามสื่อสารถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น รวมทั้งมีการจัดแคมเปญร่วมกับพันธมิตร ทั้งธนาคาร และบัตรสมาชิกของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีบัตรทั่วโลกที่เป็นพันธมิตรกับ Coral กว่า 2,000 บัตร

ย้อนกลับไปปีที่แล้ว "คุณเบิร์ด" บอกว่า ธุรกิจของเธอกำลังเดินหน้าอย่างสวยงาม เติบโตมากกว่า 100% โดยเฉพาะส่วนของห้องรับรองในสนามบินส่วนในประเทศและต่างประเทศ ความสำเร็จของ Coral เกิดจากบริการที่ดี ใส่ใจลูกค้าโดยเอาตัวเองเป็นผู้โดยสาร อะไรที่เราอยากได้ อะไรที่เราไม่สบายใจเวลาเดินทาง ก็นำมาใส่ในบริการและแก้ไขปัญหาให้หมด อาทิ บริการ Fast Track สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้า-ออกในสนามบินขนาดใหญ่ของประเทศไทย เรียกว่าดูแลลูกค้าตั้งแต่รับและส่งขึ้นเครื่อง  

ธุรกิจของ Coral นอกจากส่วนที่ลงทุนด้วยตัวเองแล้ว ยังรับบริหารห้องรับรองให้สายการบินต่างๆ รวมทั้งกำลังเดินหน้าสู่การขยายไปต่างประเทศ ทั้ง โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น, หลวงพระบาง ลาว, อินเดีย และชางฮี สิงคโปร์ รวมถึง บังคลาเทศ และปากีสถาน ก็มีแผนที่จะขยายไปอย่างแน่นอน ด้วยงบลงทุนอย่างน้อยราว 50 ล้านบาทต่อจุด ส่วนในประเทศ ลงทุนขั้นต่ำประมาณ 10 ล้านบาทต่อจุด คืนทุนภายใน 2 ปีโดยเฉลี่ย ซึ่งทุกอย่างต้องรอดำเนินการต่อหลังสถานการณ์โควิด -19 ดีขึ้นกว่านี้

โอกาสในการทำธุรกิจของ Coral "คุณเบิร์ด" บอกว่า เกิดจากการเห็น Pain Point แล้วนำศักยภาพของตัวเองที่มี ทั้งความใส่ใจในบริการ เครือข่ายที่มี เข้าไปช่วยแก้ไข และพร้อม "ให้" ในสิ่งที่เขาต้องการ โดยไม่ปฏิเสธ ซึ่งนั่นทำให้ เมื่อเธอต้องการความช่วยเหลือ พาร์ทเนอร์จึงไม่ปฏิเสธเธอเช่นกัน

เป้าหมายสูงสุดของ "คุณเบิร์ด" คือ การนำ Thai Hospitality หรือการต้อนรับแบบไทยๆ ออกไปให้ชาวโลกได้รู้จัก...ซึ่งในวันนี้ หากโควิด -19 ไม่มาเสียก่อน เราคงได้เห็น The Coral Executive Lounge ไปตั้งอยู่ในสนามบิน ชางฮี ประเทศสิงคโปร์ และ โอซาก้า ประเทศ ญี่ปุ่นเรียบร้อยไปแล้ว

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 24 ฉบับที่ 3,616 วันที่ 8 - 10 ตุลาคม พ.ศ. 2563