“บีโอไอ” ยกเครื่ององค์กรเพิ่มประสิทธิภาพบริการนักลงทุน

05 ต.ค. 2563 | 07:15 น.

“บีโอไอ” เดินหน้าปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ สอดรับสภาพแวดล้อมการลงทุนสมัยใหม่

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า บีโอไอ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ มีผลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจที่รัฐบาลมอบหมายในการเร่งส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนให้สอดรับกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการจัดโครงสร้างกองส่งเสริมการลงทุนใหม่ แบ่งเป็น Sector 1-4 ดังนี้
                กองส่งเสริมการลงทุน 1 รับผิดชอบด้านอุตสาหกรรมเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ และการแพทย์ เช่น เกษตรและแปรรูปอาหาร การแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ

กองส่งเสริมการลงทุน 2 รับผิดชอบด้านอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เครื่องจักรกล ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

“บีโอไอ” ยกเครื่ององค์กรเพิ่มประสิทธิภาพบริการนักลงทุน

กองส่งเสริมการลงทุน 3 รับผิดชอบด้านอุตสาหกรรมพื้นฐาน และอุตสาหกรรมสนับสนุน เช่น แร่ โลหะ และวัสดุ เคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี พลังงาน สาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรม

กองส่งเสริมการลงทุน 4 รับผิดชอบอุตสาหกรรมดิจิทัล สร้างสรรค์ และบริการที่มีมูลค่าสูง เช่น ดิจิทัล เมืองอัจฉริยะ โลจิสติกส์ การบริการเฉพาะทาง การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมบริการอื่นๆ   

อย่างไรก็ดี ได้มีการเพิ่มกองติดตามและประเมินผลการลงทุนอีก 2 กอง เพื่อทำหน้าที่ติดตามการดำเนินงานของโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ที่จะต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในบัตรส่งเสริม เช่น การใช้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้รวมกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุนกับกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ เป็น “กองพัฒนาผู้ประกอบการไทย” เพื่อดูแลพัฒนาผู้ประกอบการไทย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้แก่

งานส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนไทยในต่างประเทศ การกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาผู้ประกอบการไทย การสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยงการลงทุน การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการไทย การสนับสนุนให้เกิดการใช้ชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบในประเทศ ครอบคลุมทั้งกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับการลงทุนในประเทศไทยและการลงทุนไทยในต่างประเทศ

สำหรับในช่วงสถานการณ์โควิด-19 สำนักงานได้เปิดให้บริการผ่านระบบออนไลน์ อาทิ e-Submission ซึ่งเป็นระบบการส่งจดหมาย และเอกสารผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงมีบริการ e-Service ที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของบีโอไอ ผ่านเว็บไซต์ www.boi.go.thและ

 

นางสาวดวงใจ กล่าวต่อไปอีกว่า บีโอไอจะเปิดตัวหน่วย CSU (Customer Service Unit) เพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการแก่นักลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มบุคลากรรองรับการติดต่อของนักลงทุนผ่านระบบโทรศัพท์ มีระบบการนัดหมายออนไลน์ และการให้บริการรับส่งเอกสารเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสำนักงานได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขอ‘บีโอไอ’ปีนี้ไม่ต่ำ 2 แสนล้านชงบอร์ดเพิ่มสิทธิรักษาจ้างงาน

“บีโอไอ” จัดทัพนักธุรกิจรายใหญ่พบนายกเร่งเครื่องลงทุน “อีอีซี”