"ศรีสุวรรณ" จี้ ครม.สอบ TOR ประมูลรถไฟฟ้าสีส้มหวั่นเสียค่าโง่

05 ต.ค. 2563 | 04:41 น.

เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาใหม่(TOR) หลังจากที่มีการขายซองประกวดราคาไปแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนนั้น

วันนี้ เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ทำเนียบรัฐบาล นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบการใช้อำนาจของคณะกรรมการคัดเลือกตาม ม.36 แห่ง พรบ.ร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) ที่ได้มีมติเมื่อวันที่ 21 ส.ค.63 เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเอกสารประกวดราคาใหม่ (TOR) หลังจากที่มีการขายซองประกวดราคาไปแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนนั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รฟม. แจ้งปิดเบี่ยงจราจรบนถนนเทียมร่วมมิตร เพื่อวางท่อระบายน้ำ-แก้ปัญหาน้ำท่วมขัง

ศรีสุวรรณ จ่อร้อง ครม. จับผิด ประมูลรถไฟฟ้าสีส้ม

อัพเดต!! มหากาพย์ “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” ส่อฮั้วประมูล เช็กที่นี่

14 ต.ค.นี้ รฟม.-บีทีเอส จ่อขึ้นศาล ปมแก้ทีโออาร์สายสีส้ม

 

การเปลี่ยนแปลง TOR ภายหลังการขายซองประกวดราคาไปแล้ว ถือว่าเป็นสาระสำคัญ และไม่เคยมีการดำเนินการลักษณะเช่นนี้กับโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนมาก่อน โดยให้พิจารณาซองเทคนิคมาคิดคะแนนรวมกับซองการเงิน ซึ่งปกติทั่วไปจะใช้วิธีการพิจารณาจะแยกซองเทคนิค หากผ่านตามเกณฑ์ จึงจะเปิดซองการเงิน โดยผู้ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดจะได้รับการคัดเลือก

 

 

 

   การคัดเลือกโดยใช้ข้อเสนอทางเทคนิคร่วมกับซองการเงิน จะเป็นช่องทางที่ส่อไปในทางไม่สุจริต ไม่เป็นธรรม หรืออาจเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มบริษัทใดบริษัทหนึ่งหนึ่งเป็นการเฉพาะหรือไม่ เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสการใช้ดุลยพินิจของคณะกรรมการคัดเลือกได้มากกว่าแบบเดิม ซึ่งจะทำให้ได้ผู้ชนะการประมูลไม่ใช่ผู้ที่ให้ผลตอบแทนต่อรัฐสูงสุดก็ได้ ซึ่งในที่สุดหากเอกชนจะอยู่ได้ก็ต้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐในการสนับสนุนภาระทางการเงิน และหรือการช่วยเหลือค่างานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถไฟฟ้า บริหารการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษาทั้งเส้นทาง ซึ่งท้ายที่สุดก็จะไม่เป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีที่มอบหมายให้ รฟม. คค. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 พรบ.การร่วมลงทุนฯ 2562 ของโครงการฯ รับข้อสังเกตของคณะกรรมการนโยบายฯ และความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตาม พรบ.การร่วมลงทุนฯ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

 

ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลง TOR ใหม่หลังจากที่มีการขายซองประกวดราคาไปแล้วนั้น ถือได้ว่าเป็นการขัดต่อมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อ 28 ม.ค.63 และยังขัดต่อการรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ ตาม ม.6(3) และ ม.32 ของ พรบ.ร่วมทุนฯ 2562 ประกอบกับข้อ 8(4) ของคณะกรรมการนโยบายร่วมทุนฯ อีกด้วย ดังนั้นเมื่อ รฟม.และคณะกรรมการคัดเลือกฯ ใช้อำนาจเปลี่ยนแปลง TOR ซึ่งจะยังผลให้ไม่เป็นไปตามมติ ครม.และกฎหมายดังกล่าวแล้ว เมื่อเกิดการฟ้องร้องเป็นคดีต่อศาล หากแพ้คดีขึ้นมาเสียค่าโง่ ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมฯจึงจะนำความไปร้องเรียนและสอบถามต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อบอกกล่าวและตั้งประเด็นพิพาทไว้ว่า หากในที่สุดแล้วผู้ชนะการประมูลโครงการฯนี้ มิใช่ผู้ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดแก่รัฐ แล้วเกิดการฟ้องร้องภาครัฐแพ้คดีขึ้นมา ครม.หรือหน่วยงานใดจะต้องรับผิดชอบค่าโง่ดังกล่าว นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด