เครื่องชี้เศรษฐกิจเดือนสิงหาคมปรับดีขึ้น

30 ก.ย. 2563 | 09:59 น.

ธปท. ระบุเศรษฐกิจส.ค.ปรับดีขึ้น มูลค่าส่งออกไม่รวมทองคำหดตัว 13.6 % ลงทุนภาคเอกชนหดตัวน้อยลง -4.6% การผลิตอุตสาหกรรมหดตัว9.3% การบริโภคเอกชน-1.1% ได้อานิสงส์ลงทุนภาครัฐขยายตัว 47.0% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสิทธิว่างงานแตะ 4.4 แสนคน

เศรษฐกิจไทยในเดือนสิงหาคม 2563 ปรับดีขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อน ตามมูลค่าการส่งออกสินค้า การผลิตภาคอุตสาหกรรม และเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวน้อยลง ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ดี เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนหดตัวสูงขึ้น หลังจากปัจจัยพิเศษวันหยุดยาวในเดือนก่อนหมดลง สำหรับภาคการท่องเที่ยวหดตัวสูงต่อเนื่อง จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังคงมีอยู่ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลง จากราคาอาหารสดและราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้น ด้านตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้นแต่ยังคงเปราะบาง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากการส่งออกทองคำเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิเล็กน้อยจากด้านหนี้สิน

ดอน นาครทรรพ

 

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงข่าวเศรษฐกิจและการเงินเดือนสิงหาคม ปี 2563 โดยระบุว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัว 8.2% จากระยะเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมการส่งออกทองคำในเดือนนี้ที่มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ มูลค่าการส่งออกหดตัวที่13.6% ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่หดตัว 14.3%ตามการส่งออกสินค้าหมวดที่มูลค่าเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมัน หมวดยานยนต์และชิ้นส่วน และหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับดีขึ้น สอดคล้องกับการทยอยฟื้นตัวของอุปสงค์ประเทศคู่ค้า อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าเกษตรหดัวสูงขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกผลไม้ไปจีนหลังจากเร่งไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้า ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวน้อยลงต่อเนื่องในเกือบทุกหมวดสินค้า สอดคล้องกับทิศทางการส่งออกสินค้าและการใช้จ่ายภายในประเทศที่ทยอยฟื้นตัว มูลค่าการนำเข้าสินค้าหดตัว 19.1% จากระยะเดียวกันปีก่อนหดตัว 25.4%

 

โดยเป็นการหดตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนในทุกหมวดสินค้า ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทุน และวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง สอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมที่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น  เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัวภ4.6%น้อยลงจากเดือนก่อนที่-7.5% ตามการลงทุนหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์เป็นสำคัญ จากการนำเข้าสินค้าทุนและยอดจดทะเบียนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ทยอยฟื้นตัว และความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ยังอยู่ในระดับต่ำ สำหรับการลงทุนหมวดก่อสร้างขยายตัวลดลงเล็กน้อย ตามยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างที่ชะลอลง


 

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนยังอยู่ในทิศทางของการฟื้นตัว สอดคล้องกับปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อที่ทยอยปรับดีขึ้น ทั้งการจ้างงาน รายได้ของครัวเรือน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แม้ในเดือนนี้เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนโดยรวมจะหดตัว1.1%สูงขึ้นจากเดือนก่อน-0.1% ตามการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทนและหมวดบริการ หลังจากปัจจัยพิเศษวันหยุดยาวในเดือนก่อนหมดลง ขณะที่การใช้จ่ายหมวดสินค้าคงทนหดตัวน้อยลงต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากการซื้อรถยนต์รุ่นใหม่หลังจากที่เริ่มมีการเปิดตัวในเดือนก่อน ด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศหดตัว100%สูงต่อเนื่อง จากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศของไทยที่ยังคงมีอยู่ ส่งผลให้ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวสูงขึ้น ตามรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางที่ยังคงขยายตัวสูง47.0% ขณะที่รายจ่ายประจำหดตัว2.0%เล็กน้อยตามการเบิกจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ทั้งนี้ รายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจหดตัว25.4%ตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านคมนาคม

 

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลง จากราคาอาหารสดและราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเล็กน้อย ด้านตลาดแรงงาน อัตราการว่างงานปรับลดลง-1.9%จาก -2.1%ในเดือนกรกฎคม แต่จำนวนผู้ขอรับสิทธิว่างงานยังอยู่ในระดับสูงโดยจำนวนผู้ขอรับสิทธิว่างงานเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมอยู่ที่ 4.1แสนคนและ4.4แสนคนตามลำดับ  สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากการส่งออกทองคำเป็นสำคัญ ขณะที่ดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิเล็กน้อยจากด้านหนี้สิน ตามการขายสุทธิตราสารทุนไทยของนักลงทุนต่างชาติ และการชำระคืนเงินกู้ต่างประเทศของสถาบันการเงินที่รับฝากเงินของไทย