นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า บีโอไอจะดำเนินการร่วมกับสำนักงานอีอีซี(สกพอ.) เชิญผู้ประกอบการรายใหญ่ในพื้นที่อีอีซี จำนวน 16 ราย ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ในหลายกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยานเครื่องจักรกลขั้นสูง เคมีภัณฑ์ขั้นสูง โลจิสติกส์ และนิคมอุตสาหกรรม เข้าพบและประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสตรวจเยี่ยมพื้นที่ เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากนักลงทุนในพื้นที่ ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยการพัฒนาพื้นที่อีอีซี เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
บีโอไอมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนเป็นพิเศษ สำหรับพื้นที่อีอีซี 3 จังหวัด เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในกิจการเป้าหมาย สร้างมูลค่าเพิ่มและขีดความสามารถในการแข่งขันให้เศรษฐกิจไทย โดยเมื่อเดือนมกราคม 2563บีโอไอได้ออกแพ็คเกจใหม่ เพื่อส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีได้แก่ พื้นที่ในจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ให้ดึงดูดการลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยปรับสิทธิประโยชน์และเพิ่มประเภทกิจการเป้าหมายให้ครอบคลุมกว้างขึ้นได้แก่
1.กิจการในกลุ่มที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5-8 ปี ตามสิทธิพื้นฐานเกือบทุกประเภท (กลุ่ม A1, A2, A3) ยกเว้นกิจการบางกลุ่ม เช่น กิจการที่ไม่มีที่ตั้งสถานประกอบการชัดเจนกิจการที่มีเงื่อนไขบังคับเรื่องที่ตั้งสถานประกอบการซึ่งไม่อยู่ใน 3 จังหวัดอีอีซี เป็นต้น
2.กิจการในกลุ่มการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมายได้แก่ ไบโอเทค นาโนเทค วัสดุขั้นสูง และดิจิทัล
และ3.กิจการที่สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย เช่น กิจการออกแบบทางอิเล็กทรอนิกส์กิจการวิจัยและพัฒนา กิจการบริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น สำหรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลได้มีการกำหนดเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมใน 2ทางเลือก ได้แก่ เกณฑ์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเกณฑ์ที่ตั้งโดยสามารถเลือกดำเนินการทั้งสองเกณฑ์ควบคู่กันเพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสูงสุดหรือเลือกเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งก็ได้โดยจะได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมจากเกณฑ์ปกติที่ได้รับตั้งแต่1-3 ปี แล้วแต่กรณี
สำหรับในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-มิถุนายน 2563) การขอรับการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซี มีจำนวนทั้งสิ้น 225 โครงการ ซึ่งเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เงินลงทุนรวม 85,480 ล้านบาท แบ่งเป็นจังหวัดชลบุรี จำนวน 120 โครงการเงินลงทุน 39,990 ล้านบาท จังหวัดระยอง จำนวน 76 โครงการ เงินลงทุน 33,320 ล้านบาทและจังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 29 โครงการ เงินลงทุน 12,170 ล้านบาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อาหาร-การแพทย์รุ่ง ขอบีโอไอ 2.8 หมื่นล้าน
“บีโอไอ” อนุมัติ 1.2 หมื่นล.หนุนไทยหนุนไทยฐานผลิตอุตสาหกรรมการแพทย์