เผยเนื้อหามาตรการเยียวยา ศก.สหรัฐฉบับเดโมแครต 2.2 ล้านล้านดอลล์

30 ก.ย. 2563 | 00:47 น.

สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เปิดเผยมาตรเยียวยาเศรษฐกิจวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ เป้าหมายผลักดันให้ทำเนียบขาวและพรรครีพับลิกัน บรรลุข้อตกลงนี้ให้ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.นี้

 

นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ระบุในจดหมายที่ส่งถึงสมาชิกพรรคเดโมแครตเมื่อคืนวาน (28 ก.ย.) ว่า "มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจที่ชื่อว่า 'Heroes Act' ซึ่งมีวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ฉบับนี้ ถือเป็นทรัพยากรที่จำเป็นอย่างยิ่งในการปกป้องชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในช่วงหลายเดือนข้างหน้า โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการจัดการเงินก้อนใหม่ที่จำเป็นต่อการหลีกเลี่ยงผลกระทบสำหรับโรงเรียน ธุรกิจขนาดเล็ก ร้านอาหาร พนักงานสายการบิน และภาคส่วนอื่น ๆ"

นางแนนซี เปโลซี

นอกจากนี้ มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจฉบับนี้ยังครอบคลุมถึง :

- เม็ดเงิน 4.36 แสนล้านดอลลาร์ในการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่รัฐและรัฐบาลท้องถิ่น

- การมอบเช็คให้กับชาวอเมริกันส่วนใหญ่อีก 1,200 ดอลลาร์ และ

- การอัดฉีดเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูโครงการจ่ายเงินให้กับผู้ไม่มีงานทำสัปดาห์ละ 600 ดอลลาร์ไปจนถึงเดือน ม.ค.ปีหน้า

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำเนียบขาว-คองเกรสงัดข้อไม่เลิก ทำดัชนีดอลลาร์ร่วง

สหรัฐเร่งคลอดมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ 1 ล้านล้านดอลล์

"ทรัมป์"ขู่ใช้คำสั่งปธน. ผ่าทางตันมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจชุดใหม่

 

ข้อเสนอใหม่ของพรรคเดโมแครตมีขึ้น หลังจากนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.)ว่า ยังคงมีโอกาสที่เธอและนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ จะสามารถบรรลุข้อตกลงการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นางเปโลซีเปิดเผยกับรายการ "State of the Union" ของสถานีโทรทัศน์ CNN ว่า มีความเชื่อมั่นว่านายมนูชินจะนำเสนอบางสิ่งที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ และเธอเชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งเดโมแครตและรีพับลิกันซึ่งเป็นพรรครัฐบาล จะสามารถตกลงกันได้ในเรื่องนี้ ซึ่งพรรคเดโมแครตเอง (ที่เธอสังกัดอยู่) ก็มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ทำเนียบขาวและสภาคองเกรสบรรลุข้อตกลงกันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ย.

 

ทั้งนี้ นางเปโลซีและนายมนูชินได้เจรจากันหลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อหาทางประนีประนอมเกี่ยวกับมุมมองของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในประเด็นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว