ของใหญ่ ดี...มีปันผล

30 ก.ย. 2563 | 00:00 น.

ของใหญ่ ดี...มีปันผล : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3614 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 1-3 ต.ค.2563 By…เจ๊เมาธ์

 

     >> การทำ Window Dressing คือการที่นักลงทุนสถาบัน กองทุน ผลักดันราคาหุ้นในกองทุนที่ตนเองถืออยู่ให้มีราคาสูงขึ้น ดันพอร์ตกำไรเพิ่มขึ้นตาม และทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุน (NAV) ออกมาดีขึ้น หรืออาจจะเรียกกันว่า เป็นการตกแต่งตัวเลขทางบัญชีให้สวยขึ้นนั่นเอง ซึ่งนานแล้วที่ไม่ได้เห็นการทำ Window Dressing จนทำให้ดัชนีหุ้นไทยขยับตัวขึ้นมาอย่างโดดเด่นเหมือนเช่นที่เกิดขึ้นกับสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสที่ 3/63 (เดือนกันยายน) ซึ่งสาเหตุที่ทำให้การทำ Window Dressing เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนในไตรมาสนี้ก็มีสาเหตุที่อาจสามารถระบุได้ดังนี้
 

            • ผลการดำเนินงานของกองทุนส่วนใหญ่จะติดลบ เนื่องจากในช่วงเดือนสุดท้ายของไตรมาสที่ 3/63 ดัชนีหุ้นไทยปรับร่วงลงมาสูงถึง 10% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั้งไตรมาส
 

            •  หุ้นที่ถูกทำ Window Dressing โดยส่วนใหญ่ราคาหุ้นหน้ากระดานตํ่ากว่ามูลค่าที่แท้จริง เนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจ และความกังวลในเรื่องระบาดรอบที่สองของเชื้อ Covid-19

     >> เห็นได้ว่าการที่ดัชนีหุ้นไทยและราคาหุ้นหลายตัวขยับขึ้นมาแบบที่ไม่เป็นธรรมชาตินี้ ยังมีโอกาสที่จะถูกขายออกมา เมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาของไตรมาสที่ 4/63 (ต้นเดือนตุลาคม) และที่เจ๊เมาธ์
 

     >> เอามาเล่าให้ฟัง เพื่อสะกิดเตือนความทรงจำไว้บ้างนะคะ กลัวว่านักลงทุนที่ไม่ระวัง อาจจะตามเกมส์ราคาหุ้นไม่ทันนั่นเองค่ะ
 

     >> หุ้นกลุ่มที่ Window Dressing โดดเด่นที่สุดรอบนี้คือ ธนาคารใหญ่อย่าง KBANK BBL และ SCB ดันขึ้นมาสูงถึงตัวละ 4-5% ซึ่งเกิดขึ้นได้ไม่ง่ายนัก สำหรับหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคป สูงขนาดนี้ ถึงแม้ว่าธนาคารใหญ่เหล่านี้ กำไรปรับตัวลงค่อนข้างมาก เมื่อเที่ยบกับปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเทียบผลการดำเนินงานกับราคาหุ้นหน้ากระดาน และเทียบกับค่า P/E เห็นได้ว่า หุ้นในกลุ่มนี้ยังมีความน่าสนใจมากนะคะ ถ้าหากนักลงทุนท่านใดสนใจหุ้นดีมีปันผล เจ๊เมาธ์ แนะนำหุ้นธนาคารกลุ่มนี้...รับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะ
 

     >> หุ้นอิเล็กทรอนิกส์  DELTA KCE และ HANA  มีพัฒนาการของราคาหุ้นหน้ากระดานวิ่งมาไกลมาก โดยเฉพาะ DELTA ราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ด้วยการใช้เวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น ปัจจัยมาจากเรื่องกำไร ไตรมาสที่ผ่านมา รวมไปถึงกระแสหุ้นเทคโนโลยีในตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวแรงขึ้นในช่วงไตรมาส 3/63 แต่ในมุมมองของเจ๊เมาธ์...เจ๊ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องราคาหุ้นทางเทคนิคอยู่พอสมควรนะคะ ดังนั้น ราคาหุ้นที่ RSI ที่อยู่ในเขต Overbought มานานโดยไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาเสริมก็อาจจะทำให้ถูกขายทำกำไรออกมาได้ค่ะ เพราะฉะนั้น DELTA ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งหุ้นอิเล็กทรอนิกส์ที่มีโอกาสที่จะถูกทำกำไรระยะสั้นได้นะคะ ระวังไว้ก็ดีค่ะ

     >> DDD หุ้นที่เคยดี..เพราะเคยมีราคาสูงถึงร้อยกว่าบาท ตอนนี้กำลังตั้งหลักใหม่ แถวๆ ราคา 18 บาท หลังจากปี  2562 ขาดทุน...ราคาหุ้นที่เคยตํ่าสุด คือ 8 บาทกว่าๆ ก็เริ่มขยับดีขึ้น มาตามผลดำเนินงานที่เริ่มดีขึ้น...ในขณะเดียวกัน ผลกำไรในไตรมาสที่ 2/63 ที่ออกมา 48 ล้านบาท  ดูเหมือนช่วยให้ราคาฟื้นขึ้นมาได้  หากมองเทคนิคโอกาสที่ DDD จะไปต่อก็เป็นไปได้ เป้าแรก 20 บาท ส่วนเป้าต่อไปอยู่ที่ 24 บาท นะคะ ขออย่างเดียว...ขอแค่ไตรมาสที่ 3/63 ให้มีกำไรเท่านั้นค่ะ แต่ถ้ายังขาดทุน ก็ไม่ต้องมาคุยกันแล้วค่า
 

     >> ADVANC เป็นอีกหุ้นหนึ่งถือไว้กำไรงามสมํ่าเสมอ แม้ว่ายังต้องลงทุนโครงข่าย 5G เป็นจำนวนเงินมหาศาล อาจจะทำให้ผลดำเนินงาน ADVANC ออกอาการสะดุดไปบ้าง แต่สำหรับ “หุ้นห่านทองคำ” ตัวนี้ เจ๊เมาธ์ ก็ยังมีมุมมองที่ดีอยู่เหมือนเดิมนะคะ ถ้ามองตามราคาหุ้นทางเทคนิคเป้าแรก 183.50 ส่วนเป้าต่อไปก็ 200 บาท แต่ถ้าเอาตาม IAA Consensus ก็ปาเข้าไปถึง 220 บาท โน้นเลยค่ะ เห็นของดีๆ เจ๊ก็บอกต่อนะคะ...ของเค้าดีจริงๆ ค่ะ
 

     >> นับถอยหลังอีกแค่วันเดียวค่ะ (1 ต.ค.) ตลาด หลักทรัพย์ กลับมาใช้ซิลลิ่ง-ฟลอร์ 30% เหมือนเดิมแล้วค่ะ ตลาดหุ้นดีๆ กลับมาใช้ก็น่ายินดีค่ะ แต่ตลาดผีเข้า-ผีออก แบบ 3 วันดี 4 วันร่วง เจ๊เมาธ์เชื่อว่า นักลงทุนไม่แฮปปี้นะคะ หรือว่าผจก.ตลาดหุ้นคนนี้ ซาดิสส์ ชอบความรุนแรงคะ...พูดแล้วเสียวแทนค่ะ