“ทูตพาณิชย์”ชี้โควิดระบาดหนัก กระทบการค้า-ลงทุนในเมียนมา

นายธนวุฒิ นัยโกวิท ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง  ประเทศเมียนมา กล่าวว่าจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19ที่มีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นทั่วประเทศ เมียนมา ประกอบกับปัจจัยความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นทำให้ความมั่นคงทางการเงินและเสถียรภาพทางการคลังของประเทศเมียนมาอยู่ในจุดที่ต้องเฝ้าระวัง  ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19อาจเป็นปัจจัยลบซ้ำเติมทำให้เมียนมาไม่สามารถบรรลุเป้าหมายระยะยาวในการขับเคลื่อนการลงทุนในประเทศได้

ดังนั้น ในการที่จะผลักดันส่งเสริมให้เมียนมาเป็นจุดหมายที่นักลงทุนจากต่างประเทศสนใจเข้ามาลงทุนเมียนมาจะต้องสร้างระบบกฎหมายที่เป็นมาตรฐานและมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะต้องทำให้บริษัทต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นในรัฐบาลเมียนมา สำหรับ นักลงทุนต่างชาติในการจัดตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจ จ้างงาน และหาลูกค้า แต่ยังรวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจในระยะยาว         

   ทั้งนี้นักธุรกิจต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจโดยปฏิบัติตามกฎหมายเมียนมาต่างก็คาดหวังที่จะได้รับการปฏิบัติ อย่างเป็นธรรมเช่นกัน โดยนักธุรกิจต้องมั่นใจได้ว่าเมื่อธุรกิจประสบปัญหา รัฐบาลเมียนมาจะบังคับใช้ หลักนิติธรรมและดำเนินการดังกล่าวด้วยความยุติธรรมและความเสมอภาค ทั้งนี้ ธุรกิจต่างประเทศจำนวนมากสนใจเข้ามาลงทุนในเมียนมา เนื่องจากเมียนมายังมีศักยภาพที่ในการพัฒนา     และเติบโตอีกมาก รวมทั้งมีต้นทุนแรงงานที่ต่ำ ในขณะที่ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่เป็นคู่แข่งสำคัญต่างมีข้อเสนอ แพ็คเกจเต็มรูปแบบให้กับนักลงทุนต่างชาติ ทั้งในส่วนของแรงงานฝีมือที่มีทักษะมากกว่า และสภาพแวดล้อม การลงทุนที่เอื้ออำนวยที่ดีกว่า โดยมีระบบกฎหมายที่ชัดเจนและมีความแน่นอน ซึ่งจะสามารถดึงดูดบริษัท ต่างชาติให้เข้าไปลงทุนในตลาดใหม่เหล่านั้นได้ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างเดือนต.ค. 2562 – ก.ค. 2563 เมียนมาได้อนุมัติการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ FDI เป็นจำนวนเงิน 5,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 157,750 ล้านบาท