บอร์ดอคส.สั่งระงับ ดีลถุงมือยางแสนล้าน

25 ก.ย. 2563 | 12:40 น.

บอร์ดอคส.มีมติให้ระงับการดำเนินการซื้อถุงมือยาง มูลค่า 1.12แสนล้าน หลังหารือร่วม 6 ชั่วโมง พร้อมมัดจำเงินไปแล้ว 2,000 ล้านบาท ที่ประชุมยังมอบอำนาจทางกฎหมายให้  ผอ. อคส. ดำเนินการดังกล่าวได้เต็มที่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ว่า การประชุมคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (บอร์ดอคส.) ในวันนี้ (25 ก.ย.2563) ตั้งแต่เวลา 14.00 น.ซึ่งมีวาระเร่งด่วนและระลับเกี่ยวกับการซื้อขายถุงมือยาง  1.12  แสนล้านบาท  ปริมาณ  500  ล้านกล่อง  โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า  6 ชั่วโมง   เพื่อที่จะหาทางออกกับกรณีนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไร  เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหรือผลกระทบต่อองค์กร  อีกทั้ง  เจ้าหน้าที่  อคส.  สหภาพ อคส.  ต่างก็ติดตามและให้ความสนใจในเรื่องนี้    โดยเบื้องต้น  ในการประชุมหารือครั้งนี้  ได้มองไว้  2 แนวทาง  คือ  การระงับสัญญา หรือ ยกเลิกสัญญา  และการระงับการดำเนินการ  สำหรับการซื้อขายถุงมือยางดังกล่าว  ซึ่งมีการวางเงินมัดจำไว้แล้ว  2,000  ล้านบาท

  นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด อคส. ว่า  ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ระงับการดำเนินการทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายดังกล่าว  โดยได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการ อคส.ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับได้ทันที  เพราะที่ประชุมมีมติเห็นร่วมกันว่าเป็นการดำเนินการไม่ถูกต้อง 

บอร์ดอคส.สั่งระงับ  ดีลถุงมือยางแสนล้าน

           (นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมบอร์ดอคส.)

และจากการสอบถามถึงอำนาจของ ผู้อำนวยการ อคส. ตามกฎหมายและหน้าที่  ภายหลังจากที่ประชุมมีมติเห็นชอบไปให้ระงับการดำเนินการทั้งปวงนั้น  มีอำนาจที่จะระงับสัญญา  หรือ  ยกเลิกสัญญาได้หรือไม่  เบื้องต้น  ประธานบอร์ด  อคส. ได้ชี้แจงให้ไปสอบถามกับทาง ผอ. เอง  ซึ่งตนไม่สามารถตอบได้

 

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์  ระบุว่า  จากกรณีที่เกิดขึ้น  อคส. มีหนังสือร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. เพื่อร้องเรียนและกล่าวหาพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง องค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะรักษาการผู้อำนวยการอคส. กับพวกว่าได้กระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ ในการใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต เพื่อให้ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุดต่อไป

 ทั้งนี้ อคส.ยังได้แจ้งไปยังสำนักงานการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่ออายัดบัญชีเงินฝากธนาคาร และได้กล่าวทุกข์ร้องโทษไปยังพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไว้แล้วชั้นหนึ่ง  เพื่อที่จะดำเนินการนคดีดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลนิติบุคล7บริษัท ที่ทำสัญญาสั่งซื้อถุงมืยางจากองค์การคลังสินค้า(อคส.)พบว่า 5 ใน 7บริษัท เป็นนิติบุคคลไทย ได้แก่1.บริษัท 24คลีนเอเนอร์จี้  โดยมีการจดทะเบียนธุรกิจเมื่อวันที่ 24ธ.ค.2558 มีมูลค่าทุนจดทะเบียนมูลค่า5ล้านบาท มีกรรมผู้ลงนาม ประกอบด้วย1.นางเพ็ญพัฒน์ โดเกล 2.นายแอนเดล โยรก์โดเกล ซึ่งจดทะเบียนประเภทธุรกิจผลิตเครื่องและอุปกรณ์ในทางการแทพย์(ยกเว้นทันตกรรม) โดยเสนอซื้อถุงมืยางจากอคส 225บาทต่อกล่อง มูลค่าสัญญารวม 11,700ล้านบาท

บอร์ดอคส.สั่งระงับ  ดีลถุงมือยางแสนล้าน

         (นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการอคส.)

2.บริษัทไทยสไมล์เทรด จดทะเบียน ธุรกิจวันที่17ต.ค 2560 ทุนจดทะเบีนน2ล้านบาท มีกรรมการผู้ลงนาม คือ นางฉันทิศา หวง ประเภทธุรกิจการแปรรูปและการถนอนผลไม้และผักด้วยวิธีอื่นๆซึ่งไม่ได้จัดประเภทไว้ที่อื่น งบดุลกำไรปี2565  สั่งซื้อถุงมือยางจากอคส.ราคากล่องละ215บาท มูลค่าสัญญารวม 2,580ล้านบาท 3.เคเค.ออยล์แอนด์แก๊ส จดทะเบียนธุรกิจ วันที่22พ.ค.2556  ทุนจดทะเบียน100ล้านบาทมีกรรมการลงนาม 1.นายวงษ์บดีกาญจน์ ทองโสภณ 2.นางกรรณิการ์ หนุนภักดี จดทะเบียนธุรกิจประเภทการขายปลีกเชื้อเพลิงยานยนต์ในร้านค้าเฉพาะสถานีปั้ม สั่งซื้อถุงมือยางจากอคส.220บาทต่กล่อง มูลค่าสัญญารวม 11,000ล้านบาท

 

4.บริษัทเดอะควีนเพาเวอร์ จดทะเบียนธุรกิจ วันที่ 29ต.ค2558 ทุนจดทะเบียน1ล้านบาท มีกรรมการลงนาม ประกอบด้วย 1.นายวิชชิ ศรีรักษ์อักษร 2.นายไพโรจน์ จารุวงศ์วัฒนาและ3นายเมธี อธิจิตสกุล  ประเภทธุรกิจการขายส่งเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ราคาซื้อถุงมือยางกับอคส. เสนอซื้อถุงมืยางราคา 210บาทต่อกล่อง  มูลค่าตามสัญญา 2,520ล้านบาทและ5บริษัทเอเอเมทิสต์ จดทะเบียนวันที่ 23ก.ค.2562  มีกรรมการลงนาม คือ นางสาวกัญณัฏฐ์ พฤกฒิธานินทร์ ประเภทธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้การปรึกษาทางด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้อง เสนอซื้อถึงมือยางราคา210บาทต่อกล่อง มูลค่าตามสัญญา 21,00ล้านบาท

บอร์ดอคส.สั่งระงับ  ดีลถุงมือยางแสนล้าน

     (ผอ.อคส.เดินทางไปยืนหนังสือต่อDSI)

โดยทั้ง5บริษัทดังกล่าว ในสัญญาไม่มีการระบุ ว่าไม่มีหลักประกันของสัญญา,ไม่มีกำหนดส่งสินค้าเป็นงวดที่แน่นอน ,ไม่มีหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ชื้อและไม่มีการกำหนดการสิ้นสุดแห่งสัญญา  ส่วนอีก2บริษัทที่เสนอซื้อถุงมือยางจากอคส.เป็นบริษัทต่างชาติ