“จุรินทร์” ยืนยันไม่ได้โหวตแก้รธน.สวนทางรัฐบาล  

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการลงมติในการแก้ไข รธน. ว่าพรรคประชาธิปัตย์ลงมติไม่เห็นด้วยกับการให้มีการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาก่อนรับหลักการ  เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นเงื่อนไขตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมรัฐบาลว่าขอให้รัฐบาลได้บรรจุเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และรัฐบาลก็ได้บรรจุเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาแล้ว

ประกอบกับเมื่อมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญในสภาผู้แทนราษฎรขึ้นมาพิจารณาศึกษาประเด็นที่ควรแก้รัฐธรรมนูญ ก็ได้มีการกำหนดประเด็นทั้งหมดชัดเจนแล้วว่าควรแก้ไขในประเด็นใดบ้าง และมาถึงขั้นที่พรรคร่วมรัฐบาลได้มีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาด้วยกันแล้ว โดยมีหลักการให้แก้ไขมาตรา 256 และจัดตั้งสสร.ขึ้นมา โดยไม่แตะหมวด1 หมวด2 เพราะฉะนั้นเมื่อเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา พรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาก่อนรับหลักการอีก เพราะประเด็นต่างๆในการแก้ไขมีความชัดเจนในตัวของมันแล้ว ถึงขั้นพรรคร่วมรัฐบาลได้เสนอร่างแก้ไขเข้าไปด้วยกันแล้ว ควรจะเดินหน้ารับหลักการในวาระที่1ได้เลย และถ้ามีความต้องการจะไปแก้ไขปรับปรุงอะไรอีกก็สามารถทำได้ในขั้นแปรญัตติในวาระที่2ได้อยู่แล้ว จึงเป็นที่มาที่พรรคประชาธิปัตย์ลงมติไม่เห็นด้วยกับการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาก่อนรับหลักการดังกล่าว

แต่เมื่อผลการลงมติให้มีการตั้งกรรมาธิการก่อนรับหลักการชนะ ประชาธิปัตย์ก็ยอมรับเสียงส่วนใหญ่  และได้เสนอชื่อกรรมาธิการเข้าไปร่วม เพราะเป็นแนวปฏิบัติในสภามาโดยตลอดอยู่แล้ว ไม่ว่ากฎหมายฉบับไหนจะจะลงมติแพ้หรือชนะเราก็ต้องทำหน้าที่ของเราในกรรมาธิการ โดยการตั้งตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมาธิการ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้หมายความว่าถ้าไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับไหนลงมติแพ้ก็จะไม่ไปตั้งกรรมาธิการไปร่วม ประชาธิปัตย์ถือหลักอันนี้จึงตั้งกรรมาธิการเข้าไปร่วมและถือว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไปด้วย ในการทำหน้าที่ผลักดันให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญประสบความสำเร็จให้ได้และโดยเร็ว