ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 40 วัน ก็จะเป็นการชี้ชะตาว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน หรือ นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรคเดโมแครต จะได้ครอบครองทำเนียบขาว เป็นธรรมเนียมทางการเมืองของสหรัฐ ที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี จะต้องมาแสดงวิสัยทัศน์ต่อชาวอเมริกันในด้านต่าง ๆ โดย การโต้วาที หรือ “ดีเบต” ระหว่างทรัมป์และไบเดนในยกแรกจะมีขึ้นที่รัฐโอไฮโอในวันอังคารที่ 29 ก.ย. เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันพุธที่ 30 ก.ย.เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทย
การดีเบตดังกล่าวจะมีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลกผ่านทางสถานี CNN โดยผู้เข้าดีเบตจะต้องแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงหัวข้อเกี่ยวกับศาลสูงสุดของสหรัฐ เศรษฐกิจ การเหยียดชาติพันธุ์สีผิว และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ฯลฯ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลั่นกลองศึก! “ทรัมป์-ไบเดน” ดีเบตยกแรก 29 ก.ย.นี้
“ไบเดน” แฉเล่ห์ “ทรัมป์” ตั้งผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่
ศึกเลือกตั้งปธน.สหรัฐร้อนฉ่า “ไบเดน” ผงาดคู่แข่งทรัมป์อย่างเป็นทางการ
วิกฤติประท้วงทุบคะแนนนิยม “ทรัมป์” จ่อพ่ายเลือกตั้ง
คณะกรรมการจัดการอภิปรายโต้วาทีครั้งนี้ ระบุว่านายคริส วอลเลส ผู้สื่อข่าวมากประสบการณ์และผู้ดำเนินรายการฟ็อกซ์ นิวส์ ซันเดย์ จะเป็นผู้ดำเนินการดีเบตยกแรก ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ช่วง ตาม 6 หัวข้อ ช่วงหนึ่งกินเวลา 15 นาที เพื่อผลักดันการหารือเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นหลัก ๆ ที่สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทรัมป์เสียเปรียบไบเดนทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังย่ำแย่ และเรื่องโควิด-19 ที่ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูเหมือนทรัมป์ก็รู้ตัวว่าเพลี่ยงพล้ำในประเด็นดังกล่าว
ล่าสุด ทรัมป์ปฏิเสธที่จะรับปากว่า การถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่น หากเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย. โดยทรัมป์คัดค้านการลงคะแนนเสียงผ่านทางระบบไปรษณีย์ ซึ่งเขาอ้างว่ามีการโกงกันได้ง่าย
ขณะนี้ผลสำรวจของสำนักโพลต่าง ๆ ล้วนฟันธงว่า ไบเดนกำลังมีคะแนนนำทรัมป์ แต่การที่สหรัฐตัดสินผู้ชนะจากคะแนนของคณะผู้เลือกตั้ง (electoral vote) ไม่ใช่คะแนนดิบจากผู้ลงคะแนนทั่วประเทศ (popular vote) ก็อาจทำให้ทรัมป์สร้างปาฏิหาริย์เป็นผู้ชนะอีกครั้งเหมือนที่เคยทำไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว