สวนโควิด "รีเจ้นท์ กรุ๊ป" เปิด “วาลา หัวหิน” บูทีค บีช รีสอร์ท หรู 1.2 พันล.

        รีเจ้นท์ กรุ๊ป  ขยายฐานลูกค้า ทุ่ม  1,200 ล้านบาท พัฒนา วาลา หัวหิน -  นู แชปเตอร์ โฮเทล (VALA Hua Hin – Nu Chapter Hotels) บูทีค บีชรีสอร์ต ระดับ 5 ดาว โดยได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิก Small Luxury Hotels of the World (SLH) ตอกย้ำความมีเอกลักษณ์ โดดเด่น หรูหราทันสมัย เหมาะที่จะเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมีสไตล์ เปิดให้บริการ Soft Opening  ตั้งแต่วันนี้  

       ทั้ง โรงแรมวาลา หัวหิน ยังได้เข้าร่วมโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ตั้งแต่วันนี้ – 31 ต.ค. 63 โดยเริ่มต้นราคา “เราเที่ยวด้วยกัน” รวมอาหารเช้า 2,520 บาท – 10,200 บาท (เป็นราคาหลังหักส่วนลดแล้ว)

      ภายใต้การบริหารงานของ นู แชปเตอร์ โฮเทล (Nu Chapter Hotels) ซึ่งเป็นกลุ่มแมเนจเมนต์นิวเจนรุ่นใหม่ โดย วาลา หัวหิน - นู แชปเตอร์ โฮเทล ได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยแนวคิด "Nature's Touch with a Modern Design" ที่ผสมผสานงานสถาปัตยกรรมทันสมัยกับบรรยากาศธรรมชาติแวดล้อมได้อย่างลงตัว บนพื้นที่กว้าง มีความเป็นส่วนตัว พร้อมด้วยมาตรฐานการบริการที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า

        นางสาว วศุมา คณาธนะวนิชย์ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท รีเจ้นท์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า “VALA หมายถึงพลังของธรรมชาติ ถือเป็นทางเลือกใหม่ของหัวหิน-ชะอำ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ต้องการโรงแรมในรูปแบบบูทีค รีสอร์ต โดยเน้นความเรียบง่ายแต่หรูหราทันสมัย และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการพักผ่อนอย่างเต็มเปี่ยม

       วาลา หัวหิน ชูจุดเด่นด้วยพื้นที่กว้างขวาง มีความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบ ร่มรื่น อุดมด้วยแมกไม้ใหญ่  นานาชนิด ติดชายหาดทอดยาวถึง 260 เมตร ชมวิวทะเลอย่างเต็มตาในมุมกว้างสุดสายตา ซึ่งแทบจะหาทำเลที่สวยงามแบบนี้ไม่ได้แล้วในพื้นที่ หัวหิน – ชะอำ ทำให้ วาลา หัวหิน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้ชีวิตให้ช้าลงในวันหยุด เพื่อพักผ่อนเติมพลังชีวิตให้กับตัวเองอย่างเต็มที่ และกลับไปอย่างมีชีวิตชีวาอีกครั้ง”

       วศุมา อธิบายว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ดินดั้งเดิมของครอบครัว ทำให้มีต้นไม้สูงใหญ่จำนวนมาก ซึ่งการออกแบบพื้นที่โครงการ (landscape design) ยังคงรักษาต้นไม้เดิมเอาไว้ทั้งหมด หรือบางต้นย้ายไปปลูกในจุดใหม่แทน  ฉะนั้น การออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมจึงไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่อาคารสถานที่อย่างเดียว หากแต่ยังให้ความสำคัญกับการเลือกพันธุ์ไม้ในแต่ละโซน เพื่อสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง
      บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ติดชายหาดทะเลหัวหิน - ชะอำ วาลา หัวหิน โอบล้อมด้วยแมกไม้อันร่มรื่น ให้ความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายตั้งแต่จุดแรกที่เดินทางมาถึง โดยให้บริการห้องพักทั้งหมดเพียง 97 ห้อง แบ่งเป็นโซนห้องพักบนอาคาร 3 ชั้น จำนวน 84 ห้อง ซึ่งมีระเบียงกว้างและเห็นวิวทะเลทุกห้อง
 

       โดยเฉพาะห้อง Deluxe Beachfront ที่ตั้งอยู่ชั้น 3 มีกระจกใสตั้งแต่เพดานจรดพื้นสามารถชมวิวทะเลได้อย่างเต็มตา และ VALA VILLAS โซนพูลวิลล่าส่วนตัว จำนวน 13 หลัง ได้รับการออกแบบในสไตล์ Glamping มีความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง โดยเฉพาะ Beachfront Pool Villa ซึ่งมีเพียง 5 หลัง ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของชายหาด ที่สามารถชมวิวทะเลได้จากภายในห้องพัก  

       ด้านนอกยังมีสระว่ายน้ำระบบเกลือส่วนตัว ขนาด 2.8 X 1.8 เมตร พื้นที่สวน และระเบียงว้าง ที่สามารถจัดกิจกรรมเอาต์ดอร์ เช่น บาร์บีคิวดินเนอร์สุดเอ็กซ์คูลซีฟ พร้อมบริการบัตเลอร์ เซอร์วิส ที่สั่งได้ดั่งใจ ตลอดระยะเวลาที่เข้าพักสระว่ายน้ำหลักเป็นอีกสิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่น โดยเป็นสระหินอ่อน ขนาดโอลิมปิกความยาวมากกว่า 55 เมตร และยังมีบาร์ในสระน้ำ ที่เปิดให้บริการ
      ที่นี่ ลูกค้าจะได้ลิ้มลองค็อกเทลแปลกใหม่ซึ่ง วาลา หัวหิน ได้ร่วมกับ Vesper ซึ่งเป็นบาร์ที่มีชื่อเสียงและติดอันดับที่  11 ใน 50 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย นำวัตถุดิบในท้องถิ่นมารังสรรค์เป็นค็อกเทล เช่น ใช้น้ำตาลโตนดแทนไซรัป (syrup) โดยมี 8 เมนูค็อกเทลซิกเนเจอร์ และอีก 12 เมนูทวิสต์ค็อกเทล
      นอกจากนี้ วาลา หัวหิน ยังให้ความสำคัญกับอาหารเป็นอย่างยิ่ง โดยจะมีอาหารหลากหลายให้เลือกรับประทานที่ WOODS Kitchen & Bar โดยอาหารกลางวันจะให้บริการทั้งอาหารไทยและนานาชาติ ส่วนมื้อค่ำจะเนรมิตบรรยากาศเสิร์ฟทาปาส เมนูซีฟู้ด และกริลล์ที่หอมชวนรับประทาน ซึ่งได้คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นผสมผสานกับเครื่องปรุงชั้นดี  เพื่อรังสรรค์เมนูทั้งหมดได้อย่างลงตัว
      สำหรับการจัดปาร์ตี้สังสรรค์จะเน้นพื้นที่กลางแจ้ง เช่น The Courtyard ที่มีทัศนียภาพโดดเด่นร่มรื่นรับวิวทะเล โอบล้อมด้วยไม้พุ่ม และกำแพงคดเคี้ยวแปลกตา WOODS Upper Deck ให้ลูกค้าชิลล์บนดาดฟ้าชมวิวอ่าวไทยอันงดงามสุดสายตา หรือ บริเวณริมชายหาด ซึ่งแต่ละจุดรองรับได้ประมาณ 50-100 คน

     เติมเต็มความสุขด้วยกิจกรรมที่มีให้เลือกหลากหลาย เช่น การปั่นจักรยานในสวน การนั่งสมาธิตอนเช้า โยคะริมชายหาด นวดแผนไทย สอนชกมวย เวิร์คชอปทำอาหารและค็อกเทล กิจกรรมศิลปะสำหรับเด็ก หรือเรียนรู้ฟาร์มออร์แกนิก อีกทั้งยังได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และอาหารเด่นของท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวออกไปสัมผัสเสน่ห์ของหัวหิน-ชะอำ ได้อีกด้วย

      วศุมา กล่าวทิ้งท้าย ในฐานะผู้บริหารของกลุ่มแมเนจเมนต์ นู แชปเตอร์ โฮเทล มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความยั่งยืน (Sustainability) ด้วยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง (food waste) การทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ และการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ รวมไปถึงการใช้วัตถุดิบในประเทศและผักผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งเป็นแนวคิดหลักที่มุ่งหวังให้แขกที่มาพักได้สัมผัสประสบการณ์ พร้อมทั้งยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาความยั่งยืน ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่โรงแรมสร้างสรรค์ขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘เตชะไพบูลย์’ จัดทัพ ‘รีเจ้นท์ บีช’ พลิกฟื้นธุรกิจฝ่าวิกฤติโควิด 
ไม่ไหว!“เตชะไพบูลย์” ปิด“รีเจ้นท์ ชะอำ”3เดือน
รร.รีเจ้นท์ชะอำ-หัวหิน เตรียมเปิดแลนด์มาร์คแห่งใหม่“Family Wing”เม.ย.นี้