กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล เปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา พบ ผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มอีก 30 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1,256 ราย ขณะเดียวกันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 4,300 ราย ซึ่งทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 187,902 ราย
รายงานของกระทรวงฯ ระบุว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการทรุดหนักในอิสราเอลขณะนี้เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 643 ราย จากระดับของ 1 วันก่อนหน้าที่มีจำนวน 604 ราย ส่วนจำนวนผู้ที่หายจากโรคโควิด-19 ก็มีเพิ่มขึ้น 1,620 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ที่รับการรักษาจนหายดีแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 134,069 ราย
รัฐบาลอิสราเอลประกาศล็อกดาวน์ประเทศรอบที่ 2 เมื่อเร็ว ๆ นี้ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา และถือเป็นประเทศแรกในโลกที่ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
มาตรการล็อกดาวน์รอบที่ 2 นี้ จะครอบคลุมระยะเวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งจะส่งผลให้ชาวอิสราเอลไม่สามารถเดินทางไกลกว่า 1 กิโลเมตรจากบ้านของตนเอง นอกจากนี้ ประชาชนจะไม่สามารถรวมกลุ่มมากกว่า 20 คนกลางแจ้ง ส่วนในที่ร่มจะรวมตัวกันได้ไม่เกิน 10 คน
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้าการประกาศมาตรการล็อกดาวน์รอบ 2 นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และนายอิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีคลัง ได้ประกาศขยายโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นนายจ้าง เพื่อบรรเทาผลกระทบที่ภาคธุรกิจจะได้รับจากมาตรการล็อกดาวน์รอบที่ 2 ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 3 สัปดาห์
โดยนายจ้างบางส่วนจะได้รับเงินช่วยเหลือการจ้างพนักงานประมาณ 1,460 ดอลลาร์ ต่อพนักงาน 1 รายที่นายจ้างยังคงจ้างงานอยู่ เพื่อสนับสนุนให้นายจ้างไม่ปลดพนักงานท่ามกลางภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น ทั้งนี้ พนักงานที่นายจ้างให้ลาหยุดโดยไม่รับเงินเดือน ก็ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์การว่างงานด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อิสราเอลเพิ่มเยียวยานายจ้าง ก่อนล็อกดาวน์ประเทศรอบใหม่
สกัดโควิดไม่อยู่ "อิสราเอล" ล็อกดาวน์ประเทศรอบ2
เปิด“เบอร์ลินโมเดล” ชู "จ้างงานระยะสั้น" ฝ่าวิกฤติโควิด
แรงงานภาคเกษตรเฮ เดินทางกลับไปทำงานอิสราเอล หลังโควิดคลี่คลาย