จีนออกสมุดปกขาว 30 ปี กองทัพจีนร่วมผดุงสันติภาพโลก

20 ก.ย. 2563 | 04:01 น.

30 ปีกองทัพจีนร่วมปฏิบัติการผดุงสันติภาพสหประชาชาติ  ร่วมเสนอแนวคิด-ดำเนินการรักษาสันติภาพของโลกในยุคใหม่

 

วันนี้ (20 ก.ย.63) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรายงานสมุดปกขาว​ "๓๐ ปี กองทัพจีนร่วมปฏิบัติการผดุงสันติภาพสหประชาชาติ" ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้     

 

๑. เมื่อวันที่ ๑๘ ก.ย.๖๓ สำนักงานสารนิเทศคณะรัฐมนตรีจีนประกาศรายงานสมุดปกขาว  “๓๐ ปี กองทัพจีนร่วมปฏิบัติการผดุงสันติภาพสหประชาชาติ” โดยในสมุดปกขาวได้ระบุว่า 

 

 ๑.๑ กองทัพจีนออกเดินทางเพื่อรักษาสันติภาพของโลก โดยการไปเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ผดุงสันติภาพของสหประชาชาติ(UN) นั้น ก็สืบเนื่องจากยีนที่รักสันติภาพในตัวของประชาชาติจีน แสดงความรักความห่วงใยและเจตจำนงพื้นฐานของทหารจีนต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ตลอดจนร่วมแสดงความรับผิดชอบของจีนในฐานะเป็นประเทศใหญ่

 

๑.๒ กองทัพจีนเป็นกำลังสำคัญของปฏิบัติการผดุงสันติภาพสหประชาชาติ ทหารผดุงสันติภาพของจีนไปร่วมประจำการในกว่า ๒๐ ประเทศ อาทิ กัมพูชา คองโก (DRC) ไลบีเรีย ซูดาน เลบานอน ไซปรัส ซูดานใต้ มาลี และแอฟริกากลางเป็นต้น ได้สร้างคุณูปการสำคัญในด้านส่งเสริมการแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี รักษาความมั่นคงปลอดภัยของภูมิภาค และส่งเสริมการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศที่ไปร่วมประจำการ  

 

๑.๓ กองทัพจีนได้ใช้ความพยายามในการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยมีการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านการรักษาสันติภาพกับกว่า ๙๐ ประเทศและกว่า ๑๐ องค์การระหว่างประเทศ ได้ยกขีดความสามารถด้านการรักษาสันติภาพให้สูงขึ้นอย่างไม่ขาดสาย

 

๑.๔ จีนจะแสดงบทบาทประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติต่อไป โดยสนับสนุนและเข้าร่วมปฏิบัติการผดุงสันติภาพ ตามข้อริเริ่มสหประชาชาติที่ว่า “ใช้ปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ” สนับสนุนปฏิบัติการที่จำเป็นต่อการผดุงสันติภาพของสหประชาชาติ ใช้ความพยายามเพื่อสร้างโลกที่มีสันติภาพถาวร มีความมั่นคงโดยทั่วไป เพื่อความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน การเปิดกว้าง รวมทั้งการมีความหลากหลาย และความสะอาดสวยงาม

                                  จีนออกสมุดปกขาว 30 ปี กองทัพจีนร่วมผดุงสันติภาพโลก

 

๒. ข้อสังเกตต่อสาระสำคัญในช่วงท้ายของสมุดปกขาว โดยได้ระบุว่า

 

๒.๑ เมื่อ ๗๕ ปีที่แล้ว ผู้คนบนโลกผ่านการต่อสู้นองเลือดและเสียสละอย่างมหาศาล เพื่อเอาชนะสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ และจัดตั้งระบบระหว่างประเทศโดยมีองค์การสหประชาชาติเป็นแกนกลาง เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ที่ได้สร้างความรู้สึกมากขึ้นเกี่ยวกับสันติภาพที่ยากจะชนะ และความยากลำบากในการปกป้องสันติภาพ

 

โดยปัจจุบันมนุษย์กำลังยืนอยู่ที่ทางแยกที่จะไปสันติภาพหรือสงครามความร่วมมือ หรือการเผชิญหน้าและความก้าวหน้าหรือการถดถอย ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกประเทศจำเป็นต้องเผชิญ

 

๒.๒ สันติภาพจำเป็นต้องได้รับชัยชนะและต้องรักษาสันติภาพไว้ ซึ่งจีนจะเดินตามแนวทางแห่งการพัฒนาที่สันติอย่างไม่ย่อท้อ และหวังว่าทุกประเทศจะเดินตามแนวทางแห่งการพัฒนาอย่างสันติ ก็ต่อเมื่อทุกประเทศดำเนินไปตามแนวทางแห่งการพัฒนาอย่างสันติ พวกเขาสามารถพัฒนาร่วมกันและอยู่ร่วมกันอย่างสันติและโลกจะบรรลุสันติภาพได้อย่างแท้จริง 

 

โดยกองทัพจีนจะยังคงให้การสนับสนุนปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาอย่างจริงจังในการปกป้องสันติภาพสร้างความมั่นใจให้กับพื้นที่ขัดแย้ง และให้ประชาชนในพื้นที่มีความหวังมากขึ้น ซึ่งจีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับประเทศที่รักสันติภาพทั้งหมด เพื่อปกป้องและปฏิบัติลัทธิพหุภาคีอย่างมั่นคงรักษาระบบระหว่างประเทศที่มีสหประชาชาติเป็นแกนกลางอย่างมั่นคง และยึดมั่นบรรทัดฐานพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ และส่งเสริมการสร้างชะตากรรมของมนุษยชาติ ชุมชนทำงานร่วมกันเพื่อสร้างโลกที่ดีกว่า

 

บทสรุป สาระสำคัญในรายงานสมุดปกขาวดังกล่าว  ได้เน้นถึงการมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์โดยเฉพาะช่วง ๓๐ ปี แห่งการมีส่วนร่วมของกองทัพจีนในปฏิบัติการรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ รวมทั้งการนำเสนอแนวคิดและการดำเนินการของกองทัพจีนในการรักษาสันติภาพของโลกในยุคใหม่ ดังนั้น รัฐบาลจีนจึงได้ออกสมุดปกขาวฉบับนี้