“จีน-ยุโรป”เร่งเจรจาลงทุนจบภายในปีนี้

19 ก.ย. 2563 | 09:25 น.

“จีน-ยุโรป”ร่วมผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างกันให้สูงขึ้น พร้อมเร่งเจรจาการลงทุน-การค้า ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้

 

วันนี้(19 ก.ย.63) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ยุโรป จากการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง  ได้พบปะหารือผ่านระบบทางไกลจากกรุงปักกิ่ง กับ นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประธานหมุนเวียนสหภาพยุโรป นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และ นางอูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป เมื่อช่วงค่ำวันที่ ๑๔ ก.ย.๖๓ (ตอนที่ ๒ ว่าด้วยข้อตกลงร่วมในการพัฒนาความร่วมมือ - จบ) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้   

 

๑. ผู้นำจีน เยอรมนี และสหภาพยุโรป ได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างลึกซึ้ง เกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ยุโรป รวมถึงกำหนดแนวทางในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ยุโรปในขั้นต่อไป  พร้อมทั้งวางแผนความร่วมมือด้านสำคัญระหว่างกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า

 

๑.๑ จะเสริมการแลกเปลี่ยน การประสานงาน และความร่วมมือ เพื่อประกันให้กิจการทางการเมืองด้านต่าง ๆ ระหว่างกันประสบความสำเร็จลุล่วง อีกทั้งสองฝ่ายยังจะลงลึกความไว้เนื้อเชื่อใจกันและอำนวยประโยชน์แก่กันเพื่อได้รับชัยชนะร่วมกัน

 

นอกจากนี้ ยังจะร่วมกันรักษาหลักแห่งความเป็นพหุภาคี  ร่วมกันรับมือความท้าทายระดับโลก และผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ยุโรปให้สูงขึ้นอีกระดับ

 

๑.๒ จีน-ยุโรปร่วมกันประกาศว่า มีการลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และยืนยันจะเร่งดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับการลงทุนระหว่างจีน-ยุโรป เพื่อให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้

 

๑.๓ จีน-ยุโรปตกลงจะดำเนินการเจรจาระดับสูงเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศ รวมถึงความร่วมมือด้านดิจิทัล เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนแห่งความร่วมมือสีเขียวและดิจิทัล  

                                    “จีน-ยุโรป”เร่งเจรจาลงทุนจบภายในปีนี้

 

 

๒. นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และ นางอูร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ได้กล่าวว่า 

 

 ๒.๑ จีนเป็นหุ้นส่วนสำคัญด้านความร่วมมือยุทธศาสตร์ที่ยุโรปให้ความเคารพนับถือ โลกปัจจุบันต้องการให้ยุโรปกับจีนเสริมสร้างความสามัคคีและความร่วมมือ ร่วมกันปกป้องลัทธิพหุภาคี ต่อต้านลัทธิเอกภาคีและลัทธิกีดกัน รับมือความท้าทายด้านต่าง ๆ ทั่วโลกอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้  สอดคล้องกับผลประโยชน์ร่วมกันของยุโรป จีน และประชาคมโลก​

 

โดยยุโรปยินดีเสริมการแลกเปลี่ยนกับจีน เพิ่มพูนความเชื่อถือซึ่งกันและกัน ผลักดันให้ประสบผลสำเร็จมากขึ้นในความร่วมมือด้านต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจ  การค้า การลงทุน เศรษฐกิจสีเขียว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นต้น  

 

๒.๒ ยุโรปรู้สึกมีกำลังใจต่อการที่ยุโรปกับจีน ลงนามข้อตกลงว่าด้วยสัญลักษณ์ทางภูมิศาสตร์ พร้อมกับต้อนรับการที่จีนผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเข้าถึงตลาดของต่างชาติ ขยายการเปิดประเทศ รวมถึงจะใช้ความพยายามเพื่อเสร็จสิ้นการเจรจาข้อตกลงการลงทุนระหว่างยุโรป-จีนภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มแรงขับเคลื่อนใหม่แก่ความสัมพันธ์ยุโรป-จีน โดยยุโรปยินดีเสริมสร้างความร่วมมือกับจีนในองค์กรระหว่างประเทศ เช่น  องค์การอนามัยโลก และองค์การการค้าโลก เป็นต้น ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการต้านโรคระบาด ปกป้องการค้าเสรี รวมถึงส่งเสริมให้เศรษฐกิจยุโรป จีน และทั่วโลกพื้นฟูโดยเร็ว

 

๒.๓ สำหรับในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ยุโรปยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าตัวเองยังคงมีปัญหาอยู่ พร้อมกับหวังว่าจะร่วมกับจีนดำเนินการแลกเปลี่ยนโดยยึดหลักแห่งการเคารพซึ่งกันและกัน รวมถึงความเสมอภาคเท่าเทียม เพิ่มพูนความเข้าใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนจัดการความแตกต่างและความขัดแย้งระหว่างกันอย่างเหมาะสม

 

บทสรุป ในระหว่างการพบปะเจรจา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวว่า ขณะนี้ โควิด-๑๙ ทำให้การเปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบ ๑๐๐ ปีเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น  มนุษย์กำลังเผชิญความท้าทายร่วมกันมากมายและยืนอยู่บนจุดหักเห จีน-ยุโรป เป็นสองพลังอำนาจ สองตลาด และสองอารยธรรมสำคัญของโลก

 

เมื่อเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ จึงยิ่งต้องมุ่งมั่นไปยังทิศทางที่ให้การสนับสนุนซึ่งกันและกันและดำเนินความร่วมมือด้วยความสามัคคีกัน พร้อมทั้งเร่งผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างจีน-ยุโรปอย่างเป็นปกติและมั่นคง เพื่อเติมพลังเชิงบวกแก่การรับมือโควิด-๑๙ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการรักษาความเป็นธรรม

 

นอกจากนี้ ผู้นำจีนและยุโรปยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างลุ่มลึกเกี่ยวกับประเด็นระหว่างประเทศและภูมิภาค เช่น ปัญหาอัฟกานิสถานและปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน เป็นต้น โดยสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าจะเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและประสานงาน ตลอดจนใช้ความพยายามร่วมกันปกป้องเสถียรภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศและภูมิภาค