วันนี้(18 ก.ย.63) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) เปิดเผยว่า สถานการณ์พายุโซนร้อน "โนอึล" ขณะนี้ อยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 170 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุกําลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ ด้วยความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง บริเวณเมืองดานัง ในวันนี้ (18 ก.ย.63) จากนั้นจะเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณจังหวัดมุกดาหารในช่วงค่ำวันเดียวกัน และเคลื่อนผ่านภาคเหนือเข้าสู่ประเทศเมียนมาต่อเนื่องไป
ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกําลังแรงขึ้น ทําให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้เริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน
หลังจากนั้นภาคเหนือและภาคอื่นๆ จะมีผลกระทบในระยะต่อไป
ในส่วนของการเตรียมการรับมือสถานการณ์พายุ "โนอึล" ที่จะมาถึงประเทศไทยในคืนนี้ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยของกรมปภ.ที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหากได้รับผลกระทบจากพายุ พร้อมทั้งกำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอในทุกพื้นที่เสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายจากพายุฯ ให้อยู่ในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันเหตุการณ์ หากเกิดความรุนแรงจากผลกระทบของพายุ
พร้อมทั้งประสานไปยังองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ต่างๆ ให้มีการจัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์พายุอีกด้วย โดยยังคงเน้นย้ำทุกหน่วยปฏิบัติให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุที่ได้ซักซ้อมอยู่เป็นประจำ และการเตรียมการอพยพตามแผนที่ต้องมีความพร้อม ทั้งเรื่อง เป็นสถานที่ปลอดภัย อาหาร น้ำดื่มที่สะอาด การดูแลปฐมพยาบาล ตลอดจนการตรวจตราความเรียบร้อยไม่ให้ทรัพย์สินที่ยังอยู่ในบ้านเรือนที่อพยพมาเกิดการสูญหาย
"สำหรับพี่น้องประชาชน ขอให้ติดตามสถานการณ์ สภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ อย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณใกล้เชิงเขา พื้นที่ลุ่มต่ำให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทําให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และระวังอันตรายจากลมแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ และที่สำคัญคือต้องคำนึงถึงการรักษาชีวิตไว้เป็นลำดับแรก” นายนิพนธ์ ระบุ