“ไทย-อินโดฯ” ชิงเจ้าตลาดรถยนต์นำเข้าในเวียดนาม

15 ก.ย. 2563 | 12:27 น.

8 เดือนแรกของปี 2563 เวียดนามนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศกว่า 53,000 คัน ค่ากว่า 3.7 หมื่นล้านบาท ไทยเบียดอินโดฯ ยอดนำเข้ามากสุด

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต./ทูตพาณิชย์) ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากสื่อของเวียดนามว่า ช่วง  8 เดือนแรกของปี 2563 เวียดนามนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ 53,000 คัน มูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 3.72 หมื่นล้านบาท คำนวณที่ 31 บาทต่อดอลลาร์) โดย ตั้งแต่ต้นปี 2563 รถยนต์เป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศทั้งคัน (CBU) ของเวียดนามเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากลดลงหลายเดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

 

ทั้งนี้ไทยและอินโดนีเซีย ยังคงเป็นผู้ส่งออกรถยนต์อันดับต้น ๆ ไปยังเวียดนาม จากมีข้อได้เปรียบด้านภาษีนำเข้า นอกจากนี้ไทยและอินโดนีเซียยังเป็นสองประเทศที่มีการผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค จากการที่ภาษีนำเข้าเป็นร้อยละ 0 ทำให้รถยนต์นำเข้าจากไทยและอินโดนีเซียคิดเป็นร้อยละ 70-80 ของรถยนต์ CBU ในเวียดนาม

 

“ไทย-อินโดฯ” ชิงเจ้าตลาดรถยนต์นำเข้าในเวียดนาม

 

สถิติจากกรมศุลกากรเวียดนามระบุว่า ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2563 เวียดนามนำเข้ารถยนต์จากอินโดนีเซียทั้งหมด 17,723 คัน ในขณะที่รถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศไทยมีจำนวน 19,944 คัน ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นผู้นำด้านจำนวนรถยนต์นำเข้า แต่เวียดนามนำเข้ารถยนต์มีที่นั่งต่ำกว่า 9 ที่นั่งจากอินโดนีเซียมากที่สุด ขณะที่ในเดือนสิงหาคม 2563 ยอดการนำเข้ารถยนต์ CBU อยู่ที่ 8,000 คัน มีมูลค่า 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

 

โดยราคาเฉลี่ยรถ CBU นำเข้าจากอินโดนีเซียไปยังเวียดนามมีราคาเฉลี่ย 287 ล้านด่องต่อคัน (12,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ) รถยนต์นำเข้าจากไทยมีราคาเฉลี่ย 460 ล้านด่องต่อคัน ซึ่งเฉลี่ยยังคงเท่าเดิม แต่ราคารถยนต์จากอินโดนีเซียก็ลดลงจากเดิมเฉลี่ย 319 ล้านด่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 สำหรับรถยนต์ที่นำเข้าสู่ตลาดคาดว่าจะยังคงเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นในช่วงปลายปี

 

ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่า รถยนต์นำเข้าจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงมากนัก สาเหตุมาจากความต้องการซื้อสินค้าลดลงในปี 2563 เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้รถยนต์ยอดนิยมจำนวนมากปัจจุบันประกอบในเวียดนาม ดังนั้นอุปทานและราคาขายจะคงที่ในช่วงหลายเดือนสุดท้ายของ 2563

 

สคต. ณ กรุงฮานอย ให้ความเห็นว่า อนาคตเมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สามารถยุติลง กลับสู่ภาวะปกติคาดว่าเวียดนามจะมีแนวโน้มความต้องการใช้รถยนต์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้เวียดนามให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศและมีนโยบายต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ ซึ่งจะช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศมีข้อได้เปรียบมากขึ้น ด้วยเหตุนี้การส่งออกรถยนต์ของไทยมายังเวียดนามในอนาคตอาจต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคามากขึ้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยอดผลิต-ขายรถในเวียดนามต่ำสุดรอบ 5 ปี

รถยนต์ในเวียดนามขายไม่ออก สต๊อกไตรมาสแรกพุ่ง 122%