นายวิภู เลิศสุรพิบูล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท แซล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ Meat Avatar นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากเทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรงและตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดโลกที่มีการคาดการณ์ว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดอาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์น่าจะอยู่ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
บริษัทได้มองเห็นโอกาสและได้พัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่างจากอาหารเจ มังสวิรัติ หรืออาหารวีแกน แต่ให้รสชาติเนื้อสัมผัสที่เหมือนเนื้อสัตว์จริงๆและเนื่องจากคลุกคลีอยู่ในวงการนำเข้า-ส่งออกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารมากว่า 10 ปีทำให้รู้จักตลาดและแหล่งวัตถุดิบ ได้ใช้เวลาในการพัฒนาสินค้า 5 ปี จึงเกิดเป็นแบรนด์ Meat Avatar ขึ้น ซึ่งเป็นการจำแลงรูปร่างเนื้อสัตว์จากธัญพืชเป็นเจ้าแรกของไทย และมีรสชาติใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริงๆ สามารถหาซื้อได้ในราคาที่ไม่แพง
“จากที่เปิดตัวมาได้ 3-4 เดือน ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค มีสินค้า 2 รายการ คือ หมูกรอบ ขนาด200 กรัม และหมูสับ ขนาด 240 กรัม ราคาขายต่อหน่วยอยู่ที่ 120 บาท ซึ่งเป็นการสกัดโปรตีนจากพืชตระกูลถั่ว ธัญพืช แครอท เห็ด บีทรูท ทับทิม และอื่นๆ ที่หลากหลาย และใช้สีสันที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งรูปร่าง และรสชาติจะใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์จริง แต่ราคาถูกกว่า โดยถ้าเปรียบเทียบราคาในตลาดตอนนี้หมูกรอบจริงต่อกิโลกรัมอยู่ที่ 400-500 บาท และถ้าเป็นหมูสับเกรดพรีเมียมกิโลกรัมละ 300-400 บาท”
สำหรับในปีแรกน่าจะมียอดขายที่ 100 ล้านบาท โดยบริษัทมีการปรับตัวเน้นขายออนไลน์เพิ่มจากที่วาง จำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โดยในปีแรกนี้จะเน้นจำหน่ายในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% และในปี 2564 ปรับสัดส่วนเป็น 50 : 50 และในปี 2565 หรือ 2566 ปรับเป็นตลาดต่างประเทศ 80% และในประเทศ 20% จากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 500-1,000 กิโลกรัมต่อวัน และจะมีการขยายโรงงานเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดต่อไป มั่นใจว่าภายใน 3-5 ปีจากนี้จะทำรายได้เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดถึง 1,000 ล้านบาท