กกต.พร้อมจัด“เลือกตั้งท้องถิ่น”ทุกระดับ

11 ก.ย. 2563 | 06:22 น.

“ประธาน กกต.”ยันพร้อมจัด “เลือกตั้งท้องถิ่น” ทุกระดับ เผยระเบียบ-เงิน-คน พร้อมหมดแล้ว แจงส่งศาลรธน.วินิจฉัยสถานภาพ "เทพไท" เพื่อความชัดเจน  ก่อนประสานรัฐบาลตราพรฏ.เลือกตั้ง  

 

วันนี้ (11 ก.ย.63) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้กกต.มีความพร้อมจัดการ “เลือกต้งท้องถิ่น”  ทุกระดับ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะประกาศให้การเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อใดและรูปแบบใดก่อน เพราะเรื่องการแบ่งเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กกต.ดำเนินการเสร็จทั่วประเทศตั้งแต่เดือนเมษายน เหลือเพียงกระบวนการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่บ้างแต่ไม่มีปัญหา

 

ส่วนเทศบาลเหลือเพียงอีก 15-16 แห่ง ที่ยังติดปัญหาเรื่องแนวเขต แต่คิดว่าสามารถดำเนินการได้ทัน ไม่น่าจะมีปัญหา ขณะที่งบประมาณในส่วนของการกำกับดูแลของกกต. ซึ่งรวมถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 กกต.ก็ได้รับการจัดสรรจำนวน 800 ล้านบาท ขณะที่ในเรื่องของบุคลากรการเลือกตั้งกกต.ท้องถิ่น ได้เตรียมรายชื่อไว้พร้อมแล้วเช่นกันตั้งแต่เดือนเมษายน รอเพียงประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่น ก็จะแต่งตั้งคนเหล่านี้ขึ้นมาทำหน้าที่และขณะนี้ได้เริ่มอบรมวิทยากรเพื่อที่จะได้ไปทำหน้าที่อบรมเจ้าหน้าที่ ซึ่งก็จะมีการดำเนินการต่อเนื่องไป   

 

"เราพร้อมจัดการเลือกตั้งทุกระดับ เพราะระเบียบต่างๆเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการเตรียมการเรื่องบุคลากรอยู่ตลอดเวลา แต่จะเลือกอะไรก่อนเราไม่มีอำนาจไปกำหนดอยู่ที่รัฐบาลพิจารณา ซึ่งรัฐบาลก็ยังไม่มีการส่งสัญญาณ หรือติดต่อกันอย่างเป็นทางการ แต่กับทางกระทรวงมหาดไทยมีการประสานเรื่องการทำงานเป็นระยะอยู่แล้ว”

 

นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจให้กกต.ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ว่า ทราบจากข่าวหากได้รับเอกสารก็จะทำการศึกษาและสามารถให้รายละเอียดได้ แต่เมื่อวันที่ 8 ก.ย. คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งเห็นชอบหลักการร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ตามที่กกต.เสนอ และส่งให้คณะกรรมการกฤษฏีกาดำเนินการตามขั้นตอน ก่อนที่จะเสนอให้สภาฯ พิจารณาต่อไป

 

ดังนั้น ถ้าต่อไปมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและจะทำการออกเสียงประชามติ ก็จะได้ดำเนินตามกฎหมายนี้ และขอให้มั่นใจว่ากกต.จะดำเนินการภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดได้อยู่แล้ว

 

นายอิทธิพร กล่าวถึงการที่กกต.มีมติส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพส.ส.ของนายเทพไท เสนพงศ์ ว่าสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่จากกรณีถูกศาลนครศรีธรรมราช  สั่งจำคุก 2 ปี เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ว่า กรณีดังกล่าว รัฐธรรมนูญมาตรา 82 กำหนดไว้ว่าหากกกต.เห็นว่ามีเหตุให้สมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลง สามารถส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ จึงต้องรอคำวินิจฉัยของศาลก่อนจะมีการประสานรัฐบาลให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งส.ส.นครศรีธรรมราชใหม่

 

เมื่อถามว่า กกต.จะมีการพิจารณายื่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีนางนาที รัชกิจประการ ที่ถูกศาลฎีกาสั่งตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี จากเหตุยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ทำให้สมาชิกภาพส.ส.สิ้นสุดลงหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า กรณีนี้สมาชิกภาพของนางนาที สิ้นสุดลงของคำตัดสินของศาลฎีกาซึ่งเป็นที่สุด ทำให้เขาพ้นสภาพการเป็นส.ส.อยู่แล้ว และกฎหมายไม่เปิดช่องให้ยื่นศาลวินิจฉัยในกรณีลักษณะนี้ได้ แต่กรณีของนายเทพไท เป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น และอยู่ระหว่างรอการลงโทษ ซึ่งกกต.ต้องการความชัดเจนในเรื่องนี้จึงได้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

 

เมื่อถามต่อว่า หากในอนาคตนางนาที จะสามารถลงสมัครเลือกต้งท้องถิ่นได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า การพิจารณาเรื่องของคุณสมบัติว่าจะลงสมัครได้หรือไม่ หากมีการยื่นรื่องเข้ามา กกต.ก็พร้อมจะพิจารณา