นักธุรกิจโคราชผนึกสู้ ‘โมเดิร์นเทรด’ ผุด‘หมอยาพลาซ่า TODAY’

24 เม.ย. 2559 | 06:00 น.
นครราชสีมาเมืองหน้าด่านอีสาน ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่และจำนวนประชากรที่มีกว่า 2.6 ล้านคน มากเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาค กลายเป็นเป้าหมายของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern trade) ที่ต่างหวังเข้ามาปักธงช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด

การรุกเข้ามาขยายสาขาของโมเดิร์นเทรดค่ายยักษ์ใหญ่จากส่วนกลาง ที่รุกคืบเข้าไปทุกพื้นที่ในชุมชน ส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกรายย่อยท้องถิ่นที่สายป่านไม่ยาวพอ บริหารงานแบบเดิมๆ ต้องสูญพันธุ์ ล้มหาย ตายจากวงจรธุรกิจนี้ ไป

สำหรับ “หมอยาพลาซ่า” ที่เกิดจากร้านขายยาเล็กๆ ในห้างนอรีสซิตี้ เขตเทศบาลนครนครราชสีมาเมื่อ 25 ปีก่อนของ “นายจักริน เชิดฉาย” เภสัชกรหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งจบจากรั้วมหาวิทยาลัยมาหมาดๆในตอนนั้น ลงทุนด้วยเงินที่ไม่มากนักจากห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ติดแผนกซูเปอร์มาร์เก็ตของห้าง แล้วเริ่มขยายสาขาออกไปภายนอก เพิ่มพื้นที่ใหญ่ขึ้น มีสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ เข้ามาจำหน่ายในร้านขายยาเพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลาย

กิจการของ “หมอยาพลาซ่า” เติบโตอย่างมากจนสามารถขยายไปหลายสาขา ทั้งที่สาขาจอหอ สาขาปู่ทรวง (ตลาดแม่กิมเฮง) สาขาหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สาขาหนองไผ่ล้อมที่ให้บริการเต็มรูปแบบและเป็นสาขาหลักของหมอยาพลาซ่า มีพื้นที่ประมาณ 150 ตร.ม. สาขาการเคหะ สาขาอัมพวัน ซึ่งเป็นคลังสินค้าบนพื้นที่กว่า 1 ไร่เศษ และสาขาหน้าย่าโม ถนนราชดำเนิน โดยหมอยาพลาซ่าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของหมอเส็ง และ เครื่องสำอางคาร์มาร์ท

จักริน เล่าว่า การเติบโตของ “หมอยาพลาซ่า” ค่อยเป็นค่อยไป เมื่อพื้นที่ทำเลและจังหวะเหมาะสม “หมอยาพลาซ่า” ก็จะเข้าไปให้บริการลูกค้า และสาขาใดที่การตอบรับไม่ดีหรือหมดสัญญาเช่าก็จะปิดตัวไป แต่ด้วยการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา กลุ่มโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่มีเงินทุนหนาจากส่วนกลางและกลุ่มทุนต่างชาติ เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดโคราช ยึดทุกมุมในชุมชน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรายย่อยท้องถิ่น ที่ยืนหยัดต่อสู้ไม่ไหวก็ต้องล้มหายตายจากไป ส่วนธุรกิจท้องถิ่นใดที่จะตั้งรับเพื่อต่อลมหายใจ ก็จำเป็นต้องปรับตัวเองให้อยู่รอดให้ได้ และพร้อมรับมือกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

“หากวันนี้ธุรกิจท้องถิ่นไม่สู้ มีแต่ตั้งรับอย่างเดียว คงจะถูกกลุ่มทุนกลืนกินและเล็กลงทุกวัน ประกอบกับวันนี้หมอยาพลาซ่า ซึ่งแม้จะยืนหยัดอยู่ได้ แต่ทายาทที่จะมารับช่วงต่อก็ยังไม่พร้อมกับการปรับตัวเอง เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าซึ่งก็ควรจะทำ จึงจับมือกับเพื่อน “นายทรงศักดิ์ จันทร์รัตนปรีดา” เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ของจังหวัดนครราชสีมา และเป็นเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรโครงการ “โฮมการ์เด้นวิวล์” ร่วมกันก่อตั้งบริษัท ทูเดย์เซฟ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท พร้อมกับรีแบรนด์จาก “หมอยาพลาซ่า” มาเป็น “หมอยาพลาซ่าทูเดย์” ปรับลุกใหม่ทั้งหมด ให้มีความทันสมัย หลากหลาย ตอบสนองลูกค้ามากขึ้น และปรับสีสันให้มีความสดใสภายใต้คอนเซ็ปต์ “หมอยาพลาซ่า Today ทันสมัย ถูกใจคุณ” ธีมร้านจะเน้นสีส้ม สดใส สวยสะดุดตา โดยประเดิมเปิดสาขาแรกไปเมื่อปลายปี 2558 ที่สาขาศีรษะละเลิง บนพื้นที่ 200 ตร.ม. และ ในปี 2559 เปิดอีกเป็นสาขาที่ 2 บนถนนช้างเผือก ใกล้โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามีพื้นที่ 300 ตร.ม. ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ สาขานี้จะมีโกดังกระจายสินค้าด้วยใช้เม็ดเงินลงทุน 6 ล้านบาทและ10 ล้านบาทตามลำดับ”

จักริน กล่าวต่อว่า การผนึกกำลังครั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มเติมและเสริมจุดแข็ง ทำให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง พัฒนาก้าวหน้าและดีขึ้น จากประสบการณ์ที่ยาวนานในการทำธุรกิจร้านขายยาและค้าปลีกของตนเอง บวกกับประสบการณ์ของนายทรงศักดิ์ ที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีความโดดเด่นด้านทำเลและคุณภาพ ทำให้เชื่อได้ว่า “หมอยาพลาซ่า Today” จะเป็นธุรกิจค้าปลีกท้องถิ่นที่สามารถยืดหยัด ต่อสู้ช่วงชิงและรักษาส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจค้าปลีกเมืองโคราชไว้ได้อย่างยั่งยืน

สำหรับจุดแข็งของ “หมอยาพลาซ่า Today” คือเป็นร้านขายยาที่มีเภสัชกรประจำทุกสาขา มีสินค้าอุปโภคบริโภคที่หลากหลายครบครัน ทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ สินค้าสุขภาพ ความงาม เวชสำอาง นมผงผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กอ่อน สมุนไพร และเครื่องเขียน ที่สำคัญราคาไม่แพงเน้นถูกดี ทำเลเยี่ยมเข้าถึงทุกชุมชน สะดวกสบาย ขณะนี้เปิดให้บริการทั้งหมด 9 สาขา โดยเป็นสาขาเดิม 7 สาขา ในจำนวนนี้เป็นร้านขายยาและมินิมาร์ท 5 สาขา ส่วนอีก 2 สาขาเป็นร้านขายยา-มินิมาร์ทและบิวตี้ 2 สาขา โดยจะรีแบรนด์ให้เป็น “หมอยาพลาซ่า Today” ทั้งหมดและเปิดใหม่เพิ่มอีก 2 สาขา ส่วนปี 2559 “หมอยาพลาซ่า Today” ตั้งเป้าจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 สาขา เน้นหน้าสถาบันการศึกษา เช่น หน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏ และทำเลอื่น ๆ ที่เหมาะสม โดยเม็ดเงินลงทุนสาขาละประมาณ 6-10 ล้านบาทขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ ตั้งเป้ายอดขายจากเดิมปีละกว่า 200 ล้านบาท เพิ่มเป็นกว่า 300 ล้านบาทในปี 2559

การแข่งขันที่ทวีความรุนแรงเข้มข้นขึ้นทุกขณะของธุรกิจโมเดิร์นเทรดนั้น หากรายย่อยท้องถิ่นไม่รู้จักการปรับ การรุก และการรับ ที่ดีแล้ว คงเป็นเรื่องยากที่จะต่อลมหายใจให้ยืนหยัดอยู่ได้บนเส้นทางธุรกิจสายนี้ แต่หากแปลงความได้เปรียบของความเป็นท้องถิ่นรู้จักความต้องการของคนในพื้นที่ และรู้จักผนึกกำลังกันสู้ เสริมเติมเต็ม สร้างจุดแข็งให้ธุรกิจของตัวเอง ความแข็งแกร่งนี้จะเป็นกำบังที่ดีในการก้าวเดินบนเส้นทางสายนี้ได้อีกยาวไกล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,149 วันที่ 17 - 20 เมษายน พ.ศ. 2559