สรรพสามิต ยัน ขึ้นภาษียาสูบ เป็นธรรมแล้ว

09 ก.ย. 2563 | 04:38 น.

สรรพสามิต ชี้แจงกรณีขึ้นภาษียาสูบ มีความเป็นธรรม ไม่เอื้อบุหรี่นอก ระบุ ขยายเวลาปรับขึ้นแล้ว และ จัดเก็บยังต่ำกว่าบุหรี่ซิกาแรตด้วย

         จากกรณีที่เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะนำชาวไร่ยาสูบร้อง ป.ป.ช.เอาผิดกระทรวงการคลังเอื้อประโยชน์ให้บริษัทบุหรี่นอก เพราะสามารถมีระยะเวลาในการปรับตัว ซึ่งมองว่าเป็นการแสวงหากำไรจากประกาศกระทรวงการคลัง

          ล่าสุด นายวรวรรธน์ ภิญโญ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต ได้ชี้แจงว่า จาก พ.ร.บ. ภาษียาสูบ พ.ศ. 2509 จนถึง พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีการปรับขึ้นอัตราภาษียาเส้นเพียงครั้งเดียว เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2555 จากอัตราที่ 0.001 บาทต่อกรัม เป็น 0.01 บาทต่อกรัม เท่านั้น

           ขณะเดียวกัน ตาม พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ได้ปรับลดอัตราภาษีตามปริมาณเป็น 0.005 บาทต่อกรัม เพื่อขยายฐานภาษีให้ครอบคลุมถึงยาเส้นพันธุ์พื้นเมือง เพื่อเป็นการนำยาเส้นเข้าสู่ระบบสร้างความเท่าเทียมและเยียวยาให้แก่ผู้เสียภาษีรายใหม่ที่ต้องเข้าสู่ระบบ ดังนั้นการขึ้นอัตราภาษียาเส้นตามกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562  ถือเป็นการขึ้นภาษีครั้งที่ 2 ในรอบกว่า 50 ปี ในขณะที่ตลอดช่วงระยะเวลาดังกล่าว มีการปรับขึ้นภาษีบุหรี่ซิกาแรตอย่างเดียวรวม 16 ครั้ง

 

       “บุหรี่ซิกาแรตยังคงมีภาระภาษีมากกว่ายาเส้นถึง 18 เท่า โดยบุหรี่ซิกาแรตมีภาระภาษี 1.75 บาทต่อกรัม ในขณะที่ยาเส้นมีภาระภาษีเพียง 0.10 บาทต่อกรัม ทั้งที่สินค้าทั้งสองประเภทต่างมีผลเสียต่อสุขภาพเหมือนกัน”

         ทั้งนี้การออกกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต(ฉบับที่ 12) พ.ศ.2563 นั้น กรมสรรพสามิต ยังคงยึดหลักความเท่าเทียมระหว่างสินค้ายาสูบ ทั้งบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้น แต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ ที่มีผลต่อการจ้างงานภาคการเกษตร และภาคการส่งออก กรมสรรพสามิตจึงมีนโยบายเยียวยาสินค้ายาสูบ โดยเสนอขยายเวลาการบังคับใช้อัตราภาษีปัจจุบันของบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้นออกไปถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564 และเลื่อนการบังคับใช้อัตราภาษีใหม่ของบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้นออกไป โดยให้เริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป

 

           โดยเลื่อนเวลาการบังคับใช้อัตราภาษีบุหรี่ซิกาแรตตามมูลค่าแบบอัตราเดียวที่ 40% และอัตราภาษีตามปริมาณที่ 1.20 บาทต่อหนึ่งมวน จากเดิมที่จะมีการบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค. 2563 ออกไปเป็นวันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป  และเลื่อนเวลาการบังคับใช้อัตราภาษียาเส้นตามมูลค่าที่ 0% และอัตราภาษีตามปริมาณที่ 0.10 บาทต่อหนึ่งกรัม จากเดิมที่จะมีการบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค. 2564 ออกไปเป็นวันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป ซึ่งการขยายเวลาบังคับใช้อัตราภาษีบุหรี่ซิกาแรตและยาเส้นออกไป จึงเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ปลูกใบยาทั้งสองกลุ่มอย่างเท่าเทียมกันแล้ว