“จีน”แสดงบทบาทผู้นำส่งเสริมการค้าภาคบริการ

วันนี้(9 ก.ย.63) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงบทบาทของจีน ในการเป็นผู้นำด้านการส่งเสริมการค้าภาคบริการ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้  

๑. ในระหว่างวันที่ ๔–๙ ก.ย.๖๓ มีการจัดงานมหกรรมสินค้าบริการนานาชาติจีน ปี ๒๐๒๐ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติ กรุงปักกิ่ง โดยเฉพาะในการจัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยการค้าภาคบริการทั่วโลก ซึ่งประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการทหารกลางของจีน ได้กล่าวสุนทรพจน์ผ่านวีดิทัศน์ เมื่อวันที่ ๔ ก.ย.๖๓ ว่า

๑.๑ ปัจจุบันการระบาดของโควิด-๑๙ ทั่วโลก ยังควบคุมไม่ได้ทั้งหมด ประเทศต่างๆ เผชิญภาระหน้าที่อันหนักหน่วงในการต้านโรคระบาด การพัฒนาเศรษฐกิจ และการคุ้มครองชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว จีนขจัดอุปสรรคต่างๆ โดยมุ่งที่จะร่วมมือกับทั่วโลก ร่วมกันขจัดความยากลำบาก ร่วมกันส่งเสริมการค้าภาคบริการทั่วโลกให้เจริญรุ่งเรือง และผลักดันเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวโดยเร็ว

โดยจีนจะดำเนินนโยบายเปิดประเทศสู่ภายนอกอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ สร้างระบบบริหารบัญชีรายชื่อต้องห้ามด้านการค้าภาคบริการข้ามชาติให้สมบูรณ์ ผลักดันการสร้างเวทีเปิดเผยการทดลองการค้าภาคบริการแบบประดิษฐ์คิดสร้าง ผ่อนคลายข้อกำหนดการอนุญาตเข้าตลาดสำหรับกิจการภาคบริการ และขยายการนำเข้าบริการคุณภาพดี

 ๑.๒ จีนจะขยายฐานส่งออกบริการที่มีเอกลักษณ์ของตนเองและ พัฒนารูปแบบใหม่ด้านการค้าภาคบริการ โดยจีนยินดีร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ประสานงานด้านนโยบายมหภาคให้มากขึ้น เร่งความร่วมมือระหว่างประเทศด้านดิจิทัล ทุ่มเทกำลังคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา  ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจแบ่งปันให้พัฒนาไปด้วยดี ทั้งยังผลักดันเศรษฐกิจโลกให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

๑.๓ จีนจะใช้เวทีงานมหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติ ของงานมหกรรมนำเข้านานาชาติแห่งประเทศจีน  และเวทีอื่น ๆ ผลักดันการแลกเปลี่ยนนโยบายและประสบการณ์ สร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนที่มีความหลากหลายระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล  องค์กรระหว่างประเทศ หอการค้า และวิสาหกิจ สนับสนุนให้จัดตั้งสหพันธ์การค้าภาคบริการระดับโลก จนประสบผลสำเร็จด้านความร่วมมือมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนทุกชาติได้ร่วมใช้ประโยชน์จากการเติบโตทางการค้าภาคบริการ และด้านการเปิดเผยความร่วมมือภาคบริการ

๒. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้ให้ข้อเสนอ ๓ ประการ ที่สอดคล้องกับความต้องการด้านการแก้ไขสถานการณ์ตึงเครียดของเศรษฐกิจโลกและภาระหน้าที่แสนยากลำบากของประเทศต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบของจีนที่ทวนกระแสความยากลำบาก รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจและความมั่นใจของจีน ที่จะเปิดประเทศกว้างขึ้น

โดยร่วมมือกับประชาคมโลก ขจัดความยากลำบากในปัจจุบัน เพื่อได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน อันมีความหมายสำคัญยิ่งต่อการฟื้นฟูของเศรษฐกิจโลก อันได้แก่

(๑) ร่วมกันสร้างบรรยากาศความร่วมมือที่เปิดกว้างและมีความหลากหลาย

(๒) ร่วมกันผลักดันความร่วมมือที่เน้นการสร้างนวัตกรรมใหม่

และ (๓) ร่วมกันสร้างสภาพความร่วมมือที่เอื้อประโยชน์แก่กันและได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน

๓. ผลที่จีนได้รับจากการจัดงานมหกรรมสินค้าบริการนานาชาติจีน ปี ๒๐๒๐ ดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะได้รับความสนใจอย่างมากทั้งในและต่างประเทศแล้ว ได้ส่งสัญญาณที่สำคัญในหลายประการ กล่าวคือ

๓.๑ ในประการแรก ทำให้จีนมีความมั่นใจต่อการโชว์ผลสำเร็จในการควบคุมโควิด จากการจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งมีความสำคัญและถือเป็นครั้งแรกภายหลังเกิดการระบาดโควิด-๑๙ โดยมีผู้ประกอบการ ๑๘,๐๐๐ ราย นักธุรกิจ ๑๐๐,๐๐๐ คนจาก ๑๕๘ ประเทศลงทะเบียนเข้าร่วมงาน รวมทั้งมีผู้เข้าชมในสถานที่จัดงานจำนวนมาก 

๓.๒ ในประการที่ ๒ เป็นการแสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีนต่อประชาคมโลก โดยพ้นจากผลกระทบของโควิดและฟื้นฟูอย่างเร็ว ซึ่งเศรษฐกิจจีนมีขนาดที่ใหญ่โต จากผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่มีเกือบ ๑๐๐ ล้านล้านหยวน และจัดอยู่อันดับ ๒ ของโลก ทั้งนี้ เนื่องจากจีนมีระบบอุตสาหกรรมการผลิตที่สมบูรณ์แบบและหลากหลายชนิด มีตลาดใหญ่ที่มีประชากรกว่า ๑,๔๐๐ ล้านคน มีกลุ่มชนรายได้ระดับปานกลางกว่า ๔๐๐ ล้านคน มีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประจำมากกว่า ๘๐๐ ล้านคน จึงเป็นพลังสำคัญในการต้านผลกระทบต่างๆ และการรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจ โดยความสามารถยอดเยี่ยมในการบริหารงานและใช้นโยบายต่างๆ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของรัฐบาลจีน  ทำให้ได้รับการยอมรับจากนักลงทุนทั่วโลก และได้ส่องแสงแห่งความหวังให้กับเศรษฐกิจโลก

๓.๓ ประการที่ ๓ การจัดงานครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการเปิดประเทศที่กว้างยิ่งขึ้นของจีน ทั้งนี้ เนื่องจากการค้าบริการเป็นส่วนประกอบสำคัญในการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งมีศักยภาพในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเป็นสัญลักษณ์สำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจที่มีคุณภาพสูง ดังนั้น การกระชับความร่วมมือด้านการบริการนั้น มิเพียงแต่จะผลักดันการพัฒนาของธุรกิจและการค้าภาคบริการของประเทศต่างๆ เท่านั้น แต่ยังมีบทบาทส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการประสานงานระหว่างรัฐบาลประเทศต่างๆ ในการสร้างผลสำเร็จจากการร่วมมือกันที่มากยิ่งขึ้น

บทสรุป ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้เน้นย้ำว่า แม้ว่าโควิด-๑๙ จะเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว และได้สร้างอุปสรรคแก่เราทุกคน แต่ไม่สามารถกีดขวางฝีก้าวการพัฒนาด้านการค้าภาคบริการ โดยจีนจะสนับสนุนให้กรุงปักกิ่งสร้างเขตสาธิตการขยายกิจการบริการระดับชาติ โดยรวมการพัฒนาในพื้นที่กรุงปักกิ่ง นครเทียนจิน และมณฑลเหอเป่ย เพื่อนำพาการปฏิรูปและเปิดประเทศให้ก้าวไปสู่ระดับใหม่

ด้วยการผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในธุรกิจภาคบริการ รวมทั้งการเดินหน้าสร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวเพื่อส่งเสริมการค้าการบริการให้พัฒนาอย่างเสรีมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งภายใต้สถานการณ์ใหม่การค้าภาคบริการกลายเป็นแรงสนับสนุนใหม่สำหรับการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ