“ทิพานัน”วอน "นายกโซเชียล"หยุดทำร้ายประเทศ

07 ก.ย. 2563 | 10:53 น.

“ทิพานัน”ชี้ปั่นแฮชแท็กจากนอกประเทศ หวังปลุกระดมสร้างความแตกแยก วอน "นายกโซเชียล" หยุดทำร้ายประเทศไทย

 

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี และอดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีสำนักวิจัยซูเปอร์โพล สำรวจ “เสียงประชาชนในโลกโซเชียล” พบความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับวาทกรรม “สู้เป็นไท ถอยเป็นทาส" มีเพียง 1.6 ล้านผู้ใช้งาน น้อยกว่าวาทกรรม “ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส” ที่มีผู้ใช้งาน 12.4 ล้านเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาว่า สะท้อนว่าแคมเปญนี้ที่มีความพยายามปลุกปั่น กำลังไม่ได้รับการตอบรับอย่างที่คาดหวังจากผู้ติดตามในโลกโซเชียลเท่าที่ควร ทำให้ไม่สามารถปั่นกระแส ฉกฉวยโอกาสจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ 


“กระแสที่แผ่วลงสะท้อนว่าประชาชนในโลกโซเชียลไม่มีความเห็นร่วมกับผู้คาดหวัง อาจเพราะได้ทราบข้อมูลเรื่องการปั่นกระแสจากต่างประเทศมากขึ้น จึงไม่คล้อยตามอย่างที่พยายามยัดเยียดความคิดเรื่องชนชั้นให้มีปัญหาขึ้นในสังคม” 



 

 

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่น่าสนใจคือ จากผลการศึกษายังพบว่า ผู้ใช้งานที่เคลื่อนไหวเกี่ยวกับวาทกรรมนี้ มาจากประเทศไทยเพียงร้อยละ 11.6 หรือประมาณกว่าแสนคนเท่านั้น ที่เหลือมาจากนอกประเทศไทย เช่นเดียวกับในช่วงที่ปั่นกระแสยอดสูงสุดของข้อความการเมืองที่ว่า #ถ้าไม่สู้ก็อยู่อย่างทาส มีผู้ใช้อยู่ในประเทศไทยเพียงร้อยละ 11.3 เท่านั้น ยิ่งชัดเจนว่า มีการอาศัยนอกประเทศ หรือต่างชาติในการปั่นกระแส 

 

จากผลวิจัยถึงแม้จะมีกระแสจากต่างชาติมาช่วยพยุงในโลกโซเชียลของแคมเปญ ถึง ร้อย 88.7 แต่กระแสโลกจริงกลับแผ่วอย่างหนัก และมีแนวโน้มว่าจะลดลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ยังอดตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า ในกิจกรรมที่ผ่านมาของพวกที่ใช้สร้างกระแสนั้น อาจอาศัยเสียงในโซเชียลจากต่างชาติ เข้ามาบิดเบือนสร้างความชอบธรรม รองรับในการดำเนินการทากาารเมืองต่างๆด้วยหรือไม่ ทำให้สังคม โดยเฉพาะน้องๆเยาวชนอาจเข้าใจไขว้เขว หรืออาจได้รับข้อมูลจากกระแสปลอมๆ ไปด้วย

 

 

 

“เชื่อว่าผลการศึกษาที่ออกมา จะทำให้ประชาชนทั้งในและนอกโซเชียลไทยตาสว่างมากขึ้น ไม่ตกเป็นทาสความคิดที่ปลุกระดม และอาจมีความพยายามใช้ต่างชาติปั่นกระแสให้เกิดความขัดแย้ง แตกแยกภายในประเทศก็เป็นได้ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็อยากฝากถึง "นายกโซเชียล" ว่า อย่าทำร้ายประเทศไทยเลย ประเทศไทยกำลังมีมหาวิกฤตรอบด้าน เรื่องเร่งด่วนคือมาร่วมมือกันฟื้นตัวเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องอื่นๆ" น.ส.ทิพานัน ระบุ