“ปารีณา”ซีด ป.ป.ช.แจ้ง 2 ข้อหา “แจ้งทรัพย์สินเท็จ-รุกที่ป่าผิดจริยธรรม”

07 ก.ย. 2563 | 08:29 น.

ป.ป.ช.แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา “ปารีณา ไกรคุปต์” แจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ-รุกที่ป่าขัดจริยธรรมร้ายแรง"

 

 

 

วันนี้ (7 ก.ย.63) รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการป.ป.ช. ได้ตั้งกรรมการไต่สวน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ  จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จว่า  ตอนนี้การไต่สวนคืบไปกว่าร้อยละ  90 โดย ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ น.ส.ปารีณา เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ น.ส.ปารีณา ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามขั้นตอน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตร พ.ศ. 2561


ส่วนกรณีบุกรุกที่ดิน แยกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนที่ตำรวจทรัพยากร หรือ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ได้ส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ เนื่องจากตำรวจทรัพยากรได้พิจารณาเห็นว่า เป็นการที่เจ้าหน้าที่รัฐบุกรุก  แต่ทาง ป.ป.ช.เห็นว่า เรื่องนี้เป็นการกระทำความผิดในฐานะส่วนตัวและไม่ชัดเจนว่าเป็นการกระทำในฐานะ ส.ส. ดังนั้น การกระทำจึงเป็นเรื่องส่วนตัว  ซึ่งในส่วนนี้ได้ส่งเรื่องกลับไปให้ตำรวจทรัพยากรแล้ว

 

 

แต่กรณีที่มีการบุกรุกที่ดินนั้น ป.ป.ช.กำลังพิจารณาในแง่ของจริยธรรม  ซึ่งพบว่าอาจมีประเด็นจงใจ  ที่จะกระทำความผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ที่ตามกฎหมายระบุว่า ป.ป.ช.มีอำนาจไต่สวนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ดังนั้นตอนนี้ ป.ป.ช.จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ น.ส.ปารีณา แล้ว  และหากไต่สวนแล้วพบว่า มีมูลความผิดจริง ก็จะส่งเรื่องไปยังอัยการ เพื่อให้ส่งฟ้องต่อศาลฎีกา  แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  


ทั้งนี้ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตรพ.ศ. 2561 ตามมาตรา 87 วรรคสอง ประกอบมาตรา 81 ที่ระบุไว้ ว่า หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนและมีความเห็นว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ  ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย  และหากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับฟ้อง ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา  เว้นแต่ศาลฎีกาฯ จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น  


 

ในกรณีที่ศาลฎีกาฯ มีคำพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ให้ผู้ต้องคำพิพากษานั้นพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่  และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลาไม่เกิน 10 ปีด้วยหรือไม่ก็ได้  หากผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไม่ว่ากรณีใด ผู้นั้นไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง  เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ