บ้านปู ยังเดินหน้า Greener and Smarter

03 ก.ย. 2563 | 06:18 น.

แผน 5 ปีบ้านปู 2020-2025 ยังเดินหน้า Greener and Smarter ระบุ 2 ปีแรก เร่งปั้มกระแสเงินสด งดขยายการลงทุน สำรองเงินรอ 3 ปีหลัง พร้อมขยายการลงทุนต่อเนื่อง เล็งกระตุ้นผู้ยริโภคผลิตไฟฟ้าใช้เอง

นายวิรัช วุฒิธนาเศรษฐ์ ผู้อำนวยการสายอาวุโส - กลยุทธ์องค์กร (Corporate Strategy) บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางที่บ้านปูฯ จะเดินหน้าต่อไป ปกติจะมี Master Plan ทุก 5 ปี ตอนนี้มีใช้แผนของปี 2020-2025 ทิศทางของแผนนี้ล้อไปกับแผน 5 ปีชุดที่ผ่านมา ความเป็น Greener and Smarter ยังเป็น Keyword ที่บ้านปูฯ ใช้ตลอดเวลา

 

ในการกำหนดกลยุทธ์ แผน 5 ปีฉบับนี้ มีความชัดเจน มีธุรกิจที่เราเน้น เช่น ธุรกิจด้าน Greener อย่างการลงทุนโรงไฟฟ้า Renewable ไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่น จีน เวียดนาม และอาจจะมีประเทศอื่นอีก รวมไปถึง Banpu Next ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อ Q1 ของปีนี้ เป็นธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานที่จะลงไปแตะผู้บริโภคมากขึ้น เป็นอีก Platform ที่ใช้ขับเคลื่อนกลยุทธ์ Greener and Smarter

 

ในแผน 5 ปี บ้านปูมีเป้าชัดเจน แบ่งเป็น 2 ช่วง โดย 2 ปีแรกเน้นการสร้างกระแสเงินสดให้มากที่สุดไม่ได้เน้นลงทุนโครงการใหม่ เพราะในสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว มองว่าโอกาสอยู่หลังจากนี้ดังนั้น จึงเน้นการบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ ให้ได้กระแสเงินสดมากที่สุด พยายามเพิ่มรายได้ จากส่วนที่ทำได้ เช่น การขายถ่านหิน มีลูกค้าจำนวนมากพร้อมจ่ายให้ถ่านหินคุณภาพสูง ดังนั้นฝ่ายการตลาดของเรา ซื้อถ่านหินมาผสมให้ได้คุณภาพที่ลูกค้าต้องการ จุดที่เน้นมากที่สุดคือการลดต้นทุนไม่ใช่จากโควิดอย่างเดียว อีกส่วนที่จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสด เราจะเลือกการลงทุนทที่มีความจำเป็นก่อนจริงๆ การซื้อเหมืองอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำ เราจะเลือกลงทุนอะไรที่ทำให้ธุรกิจเราไปได้ดีขึ้นออสเตรเลียเราลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นเป็นการลงทุนที่ไม่ได้ใหญ่มาก ปีหน้าคิดว่าจะทำแบบนี้อยู่

3 ปีหลัง จะกลับมาเน้นการสร้างความเติบโตอีกครั้ง ซึ่งจะทำได้ถ้ากระแสเงินสดดี ดังนั้น 3 ปีหลังเป้าหมายจะบรรลุได้ใกล้ๆ ปี 2025 โดยเฉพาะในธุรกิจไฟฟ้า 

 

สำหรับกลยุทธ์ Greener and Smarter บ้านปูยังมุ่งมั่นเหมือนเดิม ทิศทางชัดเจนอยู่แล้วใน 5 ปีแผนการลงทุนยังเป็นไปตามเดิม อย่างเช่น การลงทุนแหล่งก๊าซในอเมริกา เดิมมีแผนจะซื้อตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว มาถึงปีนี้แม้จะมีโควิดที่กระทบการลงทุนในตลาดอเมริกา แต่มองอีกมุมถือว่าบ้านปูได้เปรียบ เพราะยังไม่ได้ปิดดีล ทำให้สามารถเลื่อนกำหนดการปิดดีลได้ เป็นผลดีในแง่ที่สามารถบริหารเม็ดเงินการลงทุน

โดยสรุปเรียกว่าเรื่องทิศทางไม่เปลี่ยน แต่เปลี่ยนมาเน้นเรื่องกระแสเงินสดแทน ว่าจะเข้าไปลงทุนในจังหวะไหนที่เป็นประโยชน์กับบ้านปูมากที่สุด

 

ธุรกิจของบ้านปูฯ ก่อนหน้านี้เน้นลงทุนในโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ มีกำลังการผลิตเป็น 1,000 MW อีกหน่อยโรงไฟฟ้าจะถูกแบ่งย่อยมากขึ้น ตอนนี้บ้านปูพยายามส่งเสริมให้ผู้บริโภคผลิตไฟฟ้าใช้เองด้วย Solar Rooftop ถ้าเหลือเกินความต้องการ ก็ขายเข้ารัฐ ภาพตรงนี้คิดว่าจะชัดขึ้น โจทย์ที่เปลี่ยนไปทำให้บ้านปูต้องปรับตัวต่อไปเรื่อยๆ