“ติ๊กต็อก” ฟ้องรัฐบาลสหรัฐ ค้านคำสั่งแบน ไร้หลักฐานกล่าวหา
รัฐบาลสหรัฐถูกบริษัทเอกชนจีนฟ้องร้องกรณีสั่งแบนธุรกิจ ชี้ไม่มีหลักฐานรองรับข้อกล่าวหา
ติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันวิดีโอสั้นยอดนิยมของจีน ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาแล้วเมื่อต้นสัปดาห์นี้ (24 ส.ค.) ตามที่เคยประกาศเอาไว้ เพื่อ คัดค้านคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามประชาชนและบริษัทสหรัฐใช้บริการหรือทำธุรกิจกับติ๊กต็อก และ ไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า คำฟ้องคดีดังกล่าวมี 39 หน้า โดยมีจำเลยคือประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ และกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ
เอกสารดังกล่าวระบุว่า ติ๊กต็อกกล่าวหาทางการสหรัฐละเมิดสิทธิของบริษัทโดยไม่มีหลักฐานรองรับคำสั่งแบนดังกล่าว และยังระบุด้วยว่า สหรัฐออกคำสั่งดังกล่าวโดยไม่มีแนวทางที่ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ห้า (Fifth Amendment)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ติ๊กต็อก” จ่อฟ้องรัฐบาลสหรัฐจันทร์นี้
"ทรัมป์"บีบ"ไบต์แดนซ์"ขาย"ติ๊กต็อก"ในสหรัฐภายใน 90 วัน
“ทรัมป์-รอสส์” เป็นจำเลย ถูกกลุ่มผู้ใช้ “วีแชท” ยื่นฟ้องแล้ว
นอกจากนี้ ติ๊กต็อกยังเปิดเผยว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นการใช้สิทธิในกฎหมายว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA) โดยมิชอบ ซึ่งสหรัฐได้ใช้กฎหมายดังกล่าวในการสั่งห้ามการทำกิจกรรมที่ติ๊กต็อกมองว่าไม่ได้เป็นภัยคุกคามแต่อย่างใด
ติ๊กต็อก ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวมีขึ้น "ด้วยเหตุผลทางการเมือง ไม่ใช่ภัยคุกคามอย่างที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้ใช้เป็นเหตุผลรองรับคำสั่งนี้" โดยใช้อำนาจตามกฎหมาย IEEPA
ทั้งนี้ ติ๊กต็อกและไบต์แดนซ์ผู้เป็นโจทก์ ต้องการให้ศาลมีคำตัดสินแสดงสิทธิ์และมีคำสั่งทำให้คำสั่งแบนธุรกิจที่ออกโดยสหรัฐเป็นโมฆะและห้ามไม่ให้มีการใช้คำสั่งแบนและระเบียบกำกับใด ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะประกาศใช้ในภายหลัง
เอกสารดังกล่าวระบุว่า "คำสั่งบริหารของประธานาธิบดีขัดต่อรัฐธรรมนูญและนอกเหนืออำนาจ ซึ่งไม่ควรอนุญาตให้เกิดขึ้นได้"