Mercedes Benz GLB เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร ขับหน้า ทางฝุ่นก็ไหว
Mercedes Benz GLB คอมแพกต์เอสยูวีน้องใหม่ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ กับการทดสอบสมรรถนะบนทางฝุ่น ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยุคใหม่ มักจะมีอีเวนต์แปลกๆ จินตนาการที่แตกต่างในการเนรมิตแคมเปญ-กิจกรรมให้ลูกค้า คู่ค้า และสื่อมวลชน ได้ประหลาดใจอยู่เสมอ
ล่าสุด กับแคมเปญ Charge to Change ที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ พยายามรณรงค์ให้ผู้ใช้รถยนต์ปลั๊ก-อินไฮบริดทุกยี่ห้อ หันมาใส่ใจในการชาร์จพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น เพราะจากการสำรวจพบว่า ยังมีเจ้าของรถประเภทนี้จำนวนพอสมควร ที่ไม่เคยชาร์จรถด้วยพลังงานไฟฟ้าเลย (เติมนํ้ามันอย่างเดียว) โดยภาพโฆษณาที่ใช้โปรโมทในสื่อออนไลน์ จะเห็นคุณนายป้าท่านนึง กำลังถือหัวชาร์จกับรถบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 (F30) อยู่
...ขอให้ชาร์จเถอะครับ รถมันชาร์จได้ และวิ่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวได้ ไม่ปล่อยมลพิษ ลด PM 2.5 จึงขอสนับสนุนให้เจ้าของรถยนต์ระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อินไฮบริดทุกๆ แบรนด์ ชาร์จและใช้งานรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้โลกใบนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้น...เมอร์เซเดส-เบนซ์ เขาหวังว่าอย่างนั้น
ที่สำคัญ แนวทางนี้ยังมีส่วนสำคัญ ในการช่วยพัฒนา “องคาพยพ” อื่นๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าให้ขยับก้าวหน้า เตรียมพร้อมการแจ้งเกิด EV ในอนาคต
เรื่องรถยนต์ไฟฟ้า เรื่อง EV ก็ว่ากันไป แต่กิจกรรมล่าสุดที่ผมมีโอกาสไปร่วมงานกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย คือ การนำเอสยูวีรุ่นที่ขายในปัจจุบัน มาให้ลองขับบนทางฝุ่น แบบไม่กลัวรถเลอะ ยางถลอกกันเลยทีเดียว
ถือเป็นการนำเอสยูวีในพอร์ตของเมอร์เซเดส-เบนซ์ มาให้ลองขับแบบออฟโรดในรอบ 4 ปี ไล่ตั้งแต่ GLA GLC GLE และ GLS (ส่วนอัครออฟโรด Mercedes AMG G63 มาจอดโชว์เฉยๆ ) รวมถึงไฮไลต์ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Mercedes Benz GLB 200 ก็ต้องยอมลงสนาม มาให้ผู้สื่อข่าวขยี้บนทางฝุ่นเช่นกัน
งานนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยกทีมไปจัดที่สนามกรังด์ปรีซ์ มอเตอร์ ปาร์ค อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โดยแบ่งการขับเป็น 3 สเตจ คือ 1.ลุยเข้าไปในป่าน้อยๆ เพื่อไต่เนิน ลงนํ้า 2. สถานีออฟโรดจำลอง อย่าง เนินสนับ เนินเอียง บ่อนํ้า ตามสูตรสำเร็จ
ส่วนที่เป็นไฮไลต์คือการลองขับ Mercedes Benz GLB 200 ครั้งแรกในเมืองไทย สเตจที่ 3.แบบแรลลี่ ที่จัดหนักอัดเต็มแบบเหินฟ้า ท้าเนิน สาดใส่ พร้อมสัมผัสอาการอันเดอร์เสตียร์ของ GLB ในช่วงโค้งสั้น โค้งยาว
...งานนี้ได้ลองฝีมือ งัดเทคนิคที่เคยรํ่าเรียนออกมาใช้ ทั้งจังหวะเติมคันเร่ง การควบคุมพวงมาลัย ก็แก้อาการกันมันมือละครับ
“อัชฌ์ บุณยประสิทธิ์” ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย บอกผู้สื่อข่าวว่า ให้ทดสอบกันได้เต็มที่ รถมีหลายรุ่น ยางก็เตรียมมาเปลี่ยน ส่วนเจ้าของสนามกรังด์ปรีซ์ ก็ดูแลดี ไม่ต้องกังวล
Mercedes Benz GLB 200 วางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.3 ลิตร เทอร์โบ 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ 1,650 - 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังลงสู่ล้อคู่หน้าด้วยเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 9.1 วินาที
การทดสอบยังปิดระบบควบคุมการทรงตัว ESP ทุกคัน ไม่อย่างนั้นช่วงส่งความเร็วออกโค้งรถอาจจะวอด (เครื่องยนต์เบากำลัง) ลดความสนุก สนานในการขับขี่ลงไป
ดังนั้น สนามนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคนขับ ตัดสินใจเบรก หรือเลี้ยงคันเร่งเอง แต่ตัวผมก็สงสาร ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ประกบยาง 235/55 R18 ที่ต้องมาเจอสถานการณ์โหด ที่กาญจนบุรี แห่งนี้
สรุปขับมัน ขับสนุกว่าที่คิดครับ กับทางกรวด ฝุ่นหนาๆ รถมีอาการปัด มีจังหวะสไลด์ตัว แล้วอย่าลืมว่า Mercedes Benz GLB 200 ขับเคลื่อนล้อหน้า นะครับ ส่วนรุ่นอื่นๆที่ลงสนาม ส่วนมากมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4 Matic กันทั้งนั้น(ยกเว้น GLA)
รวบรัดตัดความ...แน่นอนว่าเจ้าของที่ซื้อ เอสยูวี เมอร์เซเดส-เบนซ์ ไม่ว่าจะรุ่นเล็กอย่าง Mercedes Benz GLB 200 ราคา 2.86 ล้านบาท ไปจนถึง GLE GLS คงมีโอกาสน้อย หรือไม่ต้องการนำรถไปตะลุยออฟโรดแน่ๆ แต่กิจกรรมนี้แสดงให้เห็นว่า ค่าตัวหลายล้านของรถยังมีสมรรถนะอีกด้านที่ซ่อนอยู่ กับยานยนต์ศักยภาพสูงตามแบบฉบับวิศวกรรมเยอรมัน เพียงแต่เจ้าของจะได้ใช้มัน อย่างเต็มที่หรือเปล่าเท่านั้นเอง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง Mercedes Benz GLB ขอโควต้านำเข้าเพิ่ม - GLA โฉมใหม่ รอประกอบไทย
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,604 วันที่ 27 - 29 สิงหาคม พ.ศ. 2563