ตลาดคอนโดฯ "พัทยา" สุดฝืน เปิดตัวใหม่ลดลง 95%

24 ส.ค. 2563 | 08:17 น.

คอลลิเออร์สฯ เผยภาพรวมตลาดคอนโดฯในพัทยา ณ สิ้นครึ่งปีแรก 2563 พบไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดกระทบอุปทานเปิดตัวใหม่ปรับตัวลดลงกว่า95%

นายภัทรชัย ทวีวงศ์     รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า  จากข้อมูลการศึกษาสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในช่วงครึ่งแรกปีพ.ศ.2563 ในพื้นที่พัทยา มีทั้งสิ้นเพียง 480 ยูนิต ในพื้นที่วงศ์อมาตย์ 1 โครงการ และเขาพระตำหนักอีก 1 โครงการ ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการที่เคยพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่มาแล้ว ซึ่งปรับตัวลดลงจากในช่วงครึ่งหลังของปีพ.ศ.2562 มากถึง 10,112 ยูนิต หรือคิดเป็น 95.46% เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า(COVID-19) ที่ยังคงแพร่ระบาดหนักในหลายประเทศทั่วโลก ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยมีท่าทีที่ดีขึ้น 

แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าว ยังคงส่งผลให้เกิดการชะลอตัวกำลังซื้อในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยาเป็นอย่างมาก และแม้ว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะปรับลดความเข้มงวดในมาตรการดังกล่าวในบางข้อลง เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและกระตุ้นกำลังซื้อให้ตื่นตัวมากขึ้น  แต่ผู้ประกอบการก็ยังคงชะลอตัวการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในช่วงนี้ออกไป บวกกับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยามีอุปทานเปิดตัวใหม่กว่า 25,700 ยูนิต ซึ่งส่งผลให้ยังคงมีอุปทานเหลือขายคงค้างอยู่ในตลาดอีกเป็นจำนวนมาก

ตลาดคอนโดฯ "พัทยา" สุดฝืน เปิดตัวใหม่ลดลง 95%

สำหรับภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยายังคงมีอุปทานที่ก่อสร้างแล้วเสร็จก่อนหน้านี้เหลือขายอยู่ในตลาดอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งการเปิดตัวของโครงการคอนโดมิเนียมในพัทยามากกว่า 15,500 ยูนิต ในปี 2562 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความร้อนแรงของตลาดคอนมิเนียมในพัทยาที่มีแนวโน้มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากที่ชะลอตัวไปกว่า 4 ปี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการผลักดันแผนพัฒนา ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศไทย หรือ Eastern Economic Corridor: EEC ที่รัฐบาลผลักดันอย่างเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา  และจากแรงหนุนของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่มีความคืบหน้าและชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ ทั้งนี้การเซ็นสัญญาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) และรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 290,000 ล้านบาท  รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องและจริงจัง  นอกจากนี้สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกา ที่กระตุ้นให้นักลงทุนจีนตัดสินใจลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น และไทยถือเป็นประเทศเป้าหมาย ล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนมากขึ้นในปี 2562 ที่ผ่านมาและในอนาคต 


สำหรับกำลังซื้อของต่างชาติในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ซื้อชาวจีน และชาติในกลุ่มเอเชีย ซึ่งพบว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านกลุ่มลูกค้าจีนกลายเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของตลาดคอนโดมิเนียมพัทยา ที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พยายามที่จะดึงดูดลูกค้าต่างชาติเหล่านี่ให้มาลงทุนในโครงการตนเองผ่านทางเอเจนซี่ในพื้นที่และเอเจนซี่จากกรุงเทพมหานคร ทดแทนกำลังซื้อคนไทยที่ชะลอตัวลงทั้งจากภาพรวมเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลง รวมถึงผลกระทบจากมาตรการ LTV หลักเกณฑ์ใหม่ที่ทำให้กำลังซื้อในส่วนที่ลูกค้าที่ต้องการคอนโดมิเนียมไว้สำหรับการพักผ่อนเป็นบ้านหลังที่ 2 ชะลอการตัดสินใจซื้ออกไป แต่พบว่าจากกำลังซื้อของต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาเป็นจำนวนมากสำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยาในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้โควต้าต่างชาติของโครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ในพัทยาเต็ม 49% ในทุกพื้นที่ เหลือแค่บางโครงการในพื้นที่จอมเทียนและนาจอมเทียนเท่านั้น

ตลาดคอนโดฯ "พัทยา" สุดฝืน เปิดตัวใหม่ลดลง 95%

อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เตรียมพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ใจกลางเมืองพัทยา ซึ่งจะเริ่มก่อสร้าง 2563 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 4-5 ปี เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าหลังแผนพัฒนา EEC ที่รัฐบาลผลักดันอย่างเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา และนอกจากนี่ยังมีกลุ่มทุนขนาดใหญ่อีกหลายรายที่กำลังมองหาที่ดินเพื่อพัฒนาเมกะโปรเจคต์ขนาดใหญ่ในพื้นที่พัทยา ซึ่งจากปัจจัยเหล่านี้ล้วนกระตุ้นให้ตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยากลับมาคักคักเป็นอย่างมากในอนาคต

ขณะอัตราการขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมในพัทยา ณ ครึ่งแรกปีพ.ศ.2563 พบว่าแม้อัตราการขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 66%  ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากในช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา แต่พบว่ายังคงมีคอนโดมิเนียมเหลือขายอยู่ในตลาดอีกมากกว่า 20,000 ยูนิต ในทุกพื้นที่ของตลาดคอนโดมิเนียมเมืองพัทยา เนื่องจากพบว่าในปี พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา  ที่อุปทานเปิดขายใหม่ในพัทยาหลายโครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ ส่งผลให้อุปทานที่เหลือขายของตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก