ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโควิดวันเดียว 1,014 คน

22 ส.ค. 2563 | 00:43 น.

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 พบว่า โตเกียวติดเชื้อมากสุด 258 คน รองลงมาโอซากา และ ฟูกูโอกะ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ สถานการณ์โรคโควิด ในประเทศญี่ปุ่น ประจำวันที่ 21 สิงหาคม 2563  เวลา 18.30 น. มีรายงานผู้ติดเชื้อทั่วประเทศญี่ปุ่นจำนวน 1,014 คน มีรายละเอียด ดังนี้

  • กรุงโตเกียว 258 คน ลดลงจากวันก่อนหน้าที่มีผู้ติดเชื้อ 339 คน
  •  จังหวัดโอซากา 166 คน
  • จังหวัดฟูกูโอกะ 87 คน
  • จังหวัดคานากาวะ 82 คน
  • จังหวัดไอจิ 82 คน
  • จังหวัดชิบะ 54 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

WHO ชี้วัคซีนเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถยุติโควิด-19 ระบาด

อ่วม! ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 23 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 8 แสนราย

 

7 เรื่องอัพเดตสถานการณ์โควิด-19 ก่อนเริ่มวันใหม่

 

 

พุ่งไม่หยุด เกาหลีใต้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 324 ราย

ในวันที่ 20 สิงหาคม ได้รายงาน สถานการณ์โรคโควิด ปรากฏว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศ ญี่ปุ่น จำนวน 1,185 คน รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสมในญี่ปุ่น 60,033 คน / ผู้ป่วยอาการรุนแรง 237 คน / ผู้เสียชีวิต 1,160 คน เพิ่มขึ้น 11 คนจากวันก่อนหน้า ทั้งนี้ จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากที่สุด ได้แก่ (1) กรุงโตเกียว 339 คน (2) จังหวัดโอซากา 132 คน (3) จังหวัดคานากาวะ 104 คน (4) จังหวัดไอจิ 82 คน (5) จังหวัดไซตามะ 73 คน รายละเอียดตามเอกสารแนบ

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม หลายจังหวัดมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มมากขึ้น ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อไม่ทราบเส้นทางการติดเชื้อ และมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสถานดูแลผู้สูงอายุหลายแห่ง ดังนี้

  • กรุงโตเกียว มีผู้ติดเชื้อใหม่ 339 คน เป็นวันแรกนับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม ที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 300 คน / ผู้ติดเชื้ออายุระหว่าง 20-39 ปี รวม 183 คน หรือประมาณร้อยละ 54 / 40-59 ปี รวม 87 คน หรือประมาณร้อยละ 26 / ร้อยละ 64 จากจำนวนทั้งหมด (218 คน) ไม่ทราบเส้นทางการติดเชื้อ และร้อยละ 36 (121 คน) ติดต่อจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่ติดจากสมาชิกในครอบครัว (55 คน โดย 32 คนเป็นผู้หญิงและประมาณครึ่งหนึ่งติดเชื้อจากสามี) ติดจากสถานพยาบาลและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ 11 คน ติดจากที่ทำงาน 8 คน ติดเชื้อจากงานเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่เพื่อน 7 คน และอื่น ๆ 27 คน
  • จังหวัดโอซากา มีผู้ติดเชื้อใหม่ 132 คน นับเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันที่จำนวนผู้ติดเชื้อเกิน 100 คน / ผู้ติดเชื้ออายุมากกว่า 60 ปี ประมาณร้อยละ 20 และมีผู้ป่วยอาการรุนแรง 63 คน / มีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในตัวเมืองโอซากาโดยมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 11 คน
  •  จังหวัดคานากาวะ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 104 คน โดยส่วนใหญ่เป็นการแพร่ระบาดในเมืองโยโกฮามาและคาวาซากิ / ผู้ป่วยเกือบทั้งหมด (100 คน) ไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง / มีผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่ผับในสถานบันเทิงยามค่ำคืนในเขตนากา เมืองโยโกฮามา เพิ่มขึ้นอีก 1 คน รวมจำนวนผู้ติดเชื้อในผับดังกล่าวทั้งสิ้น 6 คน
  • จังหวัดไอจิ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 82 คน โดยผู้ติดเชื้ออายุมากกว่า 60 ปี 39 คน / ผู้ติดเชื้อ 46 คนอยู่ในตัวเมืองนาโกยา โดยมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่โรงพยาบาลและสถานดูแลผู้สูงอายุในเมืองนาโกยา นอกจากนี้ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 10 คนจากการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่สถานดูแลผู้สูงอายุในเมืองฮันดะ
  • จังหวัดไซตามะ มีผู้ติดเชื้อใหม่ 73 คน โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 23 คนจากการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่โรงงานในจังหวัด รวมจำนวนผู้ติดเชื้อในโรงงานดังกล่าวทั้งสิ้น 32 คน
  • จังหวัดเกียวโต มีผู้ติดเชื้อใหม่ 41 คน ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ผู้ติดเชื้อใหม่ 7 คนติดเชื้อจากการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนที่สถานดูแลผู้สูงอายุในเมืองเกียวโต

 

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม มีการประชุมการเฝ้าระวังสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 ในกรุงโตเกียวประจำสัปดาห์ โดยผู้เชี่ยวชาญได้สรุปว่า สถานการณ์การติดเชื้อและการให้บริการด้านการแพทย์ ไม่เปลี่ยนแปลงมากจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี พบผู้ติดเชื้ออาการรุนแรงมากขึ้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องสำรองจำนวนเตียงมากเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสาระสำคัญอื่น ๆ ดังนี้

  • สถานการณ์การติดเชื้อมีความรุนแรงสูงที่สุด ได้แก่ “มีการระบาดของโรคติดเชื้อ” ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน
  •  มีผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 256 คนต่อวัน ซึ่งลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ยังอยู่ระดับที่สูง ยังคงมีการแพร่ระบาดในทุกพื้นที่ในกรุงโตเกียว โดยที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • ผู้ป่วยอาการรุนแรงประมาณครึ่งหนึ่งมีอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป

  นาง KOIKE Yuriko ผู้ว่าราชการกรุงโตเกียว แถลงต่อสื่อมวลชนว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อจากสมาชิกภายในบ้านยังเป็นกลุ่มที่มีจำนวนสูงที่สุด (ร้อยละ 41) และยังพบกลุ่มที่ติดจากที่ทำงานและงานเลี้ยงสังสรรค์จำนวนมากเช่นกัน จึงขอความร่วมมือประชาชนเพิ่มความระมัดระวังไม่นำเชื้อโรคไปติดผู้สูงอายุภายในบ้าน เช่น หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เป็นต้น ทั้งนี้ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับแนวโน้มของผู้ติดเชื้อที่ลดลง นาง KOIKE ตอบว่า จำนวนที่ลดลงอาจเป็นผลมาจากจำนวนผู้ที่รับการตรวจ PCR ลดลงในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา โดยภายในสัปดาห์หน้า น่าจะทราบได้ว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลโอบ้ง (เทศกาลไหว้บรรพบุรุษ) มากหรือไม่

ขณะที่ นาย OMI Shigeru ประธานคณะอนุกรรมการนโยบาย COVID-19 ของรัฐบาล ได้กล่าวในการสัมมนาด้านวิชาการของสมาคมโรคติดต่อแห่งญี่ปุ่นว่า อาจอนุมานได้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในการแพร่ระบาดในครั้งนี้ได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว โดยมีความจำเป็นที่ต้องเฝ้าระวังพัฒนาการหลังจากนี้ต่อไป ทั้งนี้ ถึงแม้ว่า ในปัจจุบันจะสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในการดำเนินกิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจได้ค่อนข้างดีในระดับหนึ่งแล้วเมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดระลอกแรก แต่รัฐบาลก็ยังต้องหามาตรการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงในสังคมให้ได้เหลือศูนย์

 ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 เป็นต้นไป รัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่มีสถานะพำนักระยะยาวทุกประเภทเดินทางกลับเข้าญี่ปุ่นได้ ภายใต้เงื่อนไขต้องตรวจ PCR เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นและต้องกักตัวอีก 14 วัน ทั้งนี้ รวมถึงชาวญี่ปุ่นที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยรัฐบาลเตรียมเพิ่มความสามารถในการตรวจ PCR ภายในท่าอากาศยาน 3 แห่ง เพื่อให้สามารถตรวจ PCR ได้ประมาณ 1 หมื่นคน/วัน

ข้อมูลจากเว็บไซต์ NHK

https://www3.nhk.or.jp/news/special/coronavirus/

ติดตามข้อมูลย้อนหลังได้ที่ http://site.thaiembassy.jp/th/info/embassy-message/list.php

เริ่มแล้วประมูลทรัพย์สินธอส.นำบ้านมือสองออกมาขาย