"อาลีบาบา"หวั่นลูกหลง หลัง"ทรัมป์"แบนบริษัทจีน
“อาลีบาบา กรุ๊ป” ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน ยืนยันว่า การทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกาของอาลีบาบานั้นจะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐ พร้อมยืนยันสนับสนุนธุรกิจอเมริกันตั้งแต่รายใหญ่ รายย่อย จนถึงเกษตรกร
นาย แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า ในฐานะ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดของโลก ธุรกิจของอาลีบาบาในสหรัฐให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งในการสนับสนุนแบรนด์ ผู้ค้าปลีก ธุรกิจขนาดเล็ก และเกษตรกรชาวอเมริกัน เพื่อช่วยให้พวกเขาขายสินค้าให้กับผู้บริโภคและคู่ค้าในประเทศจีน รวมถึงตลาดสำคัญอื่น ๆ ทั่วโลก ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าพันธกิจของอาลีบาบาที่จะผลักดันให้การทำธุรกิจเกิดขึ้นได้ง่ายจากทุก ๆ ที่ของโลกนั้น จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสหรัฐและจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของอาลีบาบามีขึ้น หลังต้นเดือนที่ผ่านมาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ห้ามไม่ให้บุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่และเจ้าของแอปพลิเคชัน “ติ๊กต็อก” (TikTok) และสั่งแบนวีแชท (WeChat) ในข้อหาเป็นภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมเปิดเผยว่า กำลังพิจารณาดำเนินการกับบริษัทจีนอื่น ๆ ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โตกระฉูด!"อาลีบาบา”กวาดรายได้ 6.84 แสนล้านบาท
"ทรัมป์"บีบ"ไบต์แดนซ์"ขาย"ติ๊กต็อก"ในสหรัฐภายใน 90 วัน
นอกจากนี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ยังเรียกร้องให้บริษัทสหรัฐตัดความสัมพันธ์กับบริษัทจีน รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์อย่างอาลีบาบา เทนเซ็นต์ (Tencent) และไป่ตู้ (Baidu) ด้วย ทำให้บรรยากาศการทำธุรกิจของภาคเอกชนจีน-สหรัฐ พลอยอึมครึมตามความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีน-สหรัฐที่ย่ำแย่ลง