ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ที่มี นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ประธาน ก.อ. เป็นประธาน มีวาระการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายสับเปลี่ยนตำแหน่งข้าราชการอัยการในระดับตั้งแต่ รองอัยการสูงสุด, รองอัยการสูงสุด 7 ตำแหน่ง, ผู้ตรวจการอัยการ 8 ตำแหน่ง ระดับอธิบดีอัยการ 79 ตำแหน่ง, รองอธิบดีอัยการอีก 118 ตำแหน่ง โดยมีตำเเหน่งที่น่าสนใจดังนี้
เลื่อน นายชาตรี สุวรรณิน ผู้ตรวจการอัยการ ขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุด ลำดับอาวุโสที่ 2
เลื่อน นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุดลำดับอาวุโสที่ 5
เลื่อน นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุดลำดับอาวุโสที่ 7
เลื่อน นายชัชชม อรรฆภิญญ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุดลำดับอาวุโสที่ 8
ส่วนการเลื่อนตำเเหน่งโยกย้ายสับเปลี่ยนในระดับอธิบดีอัยการ ที่น่าสนใจได้เเก่
นายเจษฎา อรุณชัยภิรมย์ สับเปลี่ยนจากอธิบดีอัยการสำนักคดีปราบปรามการทุจริตไป ดำรงตำเเหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา
นายจิโรจน์ เอี่ยมโอภาส อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองสงขลาสับเปลี่ยนไปดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้
นายพรชัย ชลวาณิชกุล รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาเลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ
นายบัณฑูร ทองตัน รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีแรงงานภาค 8 เลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีแรงงานภาค 8
นายศักดา ช่วงรังษี รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเลื่อน ขึ้นดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองภูเก็ต
นายอิทธิพร เเก้วทิพย์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาเลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งอธิบดีอัยการสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ
ร.ต.ท. อุทัย อาทิเวช รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนเลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งอธิบดีเอกการสำนักงานการสอบสวน
ขณะที่การเลื่อนตำเเหน่งโยกย้ายสับเปลี่ยนในระดับรองอธิบดีอัยการที่น่าสนใจได้เเก่
นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการสูงสุดเลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปรายปรามการทุจริตภาค9
ม.ล.ศุภกิจ จรูญโรจน์ อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานวิชาการเลื่อนขึ้นดำรงตำแหน่งรองอธิบดีอัยการสำนักงานอัยการสูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งรองอ้ยการสูงสุด (รองอสส.) มีประเด็นน่าสนใจได้แก่ นายสิงห์ชัย ที่เตรียมขึ้นรองอสส. อาวุโสลำดับที่ 5 เเละ นายชาติพงษ์ ที่เตรียมขึ้นรอง อสส.ลำดับที่ 7 เพราะในช่วงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 คิวหน้าของทั้ง 2 คนจะขึ้นเป็นอัยการสูงสุด(อสส.) เเละ รองอสส.อันดับ 1 เนื่องจากอันดับก่อนหน้านี้จะพ้นตำแหน่งบริหาร ซึ่งเรียกได้ว่าทั้งคู่เป็นเเคนดิเดตอสส.
สำหรับประวัติผลงาน นายสิงห์ชัย ปัจจุบันเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา ซึ่งเป็นสำนักงานหลักที่มีคดีที่เป็นข่าวดังน่าสนใจในพื้นที่หลักของนครบาลไว้ ที่ผ่านมาก็มีการบริหารงานควบคุมในการสั่งคดีหลายคดี โดยไม่พบปัญหาร้องเรียน รวมถึงเป็นตัวเต็งกรรมการเนติฯ ที่คาดว่าจะได้ขึ้นนั่งตำเเหน่งบริหาร เนติฯ เเน่นอน รวมทั้งเป็น ก.อ.ที่ได้รีบเลือกโดยคะเเนนสูงมาก นับว่าเป็นที่นิยมในหมู่อัยการ
ส่วนนายชาติพงษ์ ในสมัยหลายปีที่เเล้วขึ้นชื่อในฝีมือเรื่องปราบการทุจริต มีประสบการณ์มาก เคยนั่งรองอธิบดีคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงานที่คุมคดีสำคัญ ของสำนักงานคดีพิเศษหลายคดี เช่น คดีนิติบุคคล ฟิลิป มอร์ริส นำเข้าบุหรี่โดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ซึ่งขณะนี้มีกรณีพิพาทระหว่างประเทศไทยกับประเทศฟิลิปปินส์ ในเรื่องนี้ที่องค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ
คดีทุจริต สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งเกี่ยวพันถึงคดีทุจริตฟอกเงินเครือข่ายวัดธรรมกาย คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้กลุ่มบริษัทกฤษดามหานครโดยทุจริตที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีเเละนักการเมืองนักธุรกิจนายธนาคารตกเป็นจำเลย
เเละยังมีความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน พัวพันถึง นายพานทองแท้ ชินวัตร , รวมถึงคดีทุจริตการฟอกเงินในโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน โดยก่อนขึ้นรอง อสส.ได้เข้ามาคุมคดีเศรษฐกิจที่มีความซับซ้อน ถือเป็นอัยการมีฝีมือ ปัจจุบันเป็น ก.อ.เช่นเดียวกันกับนายสิงห์ชัย
ส่วนระดับอธิบดีอัยการที่น่าสนใจได้เเก่ นายเจษฎา ที่ไปนั่งคดีอาญาเเทนนายสิงห์ชัย ซึ่งสำนักงานนี้คุมคดีสำคัญทางอาญาเเละนักการเมืองบางส่วนรวมถึงคดีการชุมนุมบางเรื่อง หรือ คดีผู้มีอิทธิพลที่จะถูกส่งมาจากกองปราบเเละกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) นับเป็นงานท้าทายสำหรับอธิบดีอัยการสำนักงานนี้
สำหรับสำนักงานที่น่าสนใจเเละน่าจับตามองอีก คงเป็นสำนักงานคดีพิเศษ ที่นายพรชัย อดีตรองอธิบดีคดีอาญาไปนั่ง เพราะเป็นสำนักงานสำคัญ ที่รับผิดชอบคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และคดีป้องกันและปราบ ปรามการฟอกเงิน ซึ่งรวมถึงคดีการเมืองเเละการชุมนุมของม๊อบการเมืองต่างๆคนที่นั่งตำเเหน่งนี้ต้องรับงานหิน
นอกจากนี้ยังมีระดับอธิบดีอัยการในพื้นที่สำคัญได้เเก่ นายบัณฑูร ว่าที่อธิบดีอัยการคดีเเรงงานภาค 8 ซึ่งจะต้องดูเเลคดีเเพ่งไปด้วย อดีตอัยการมือว่าความคดีทวงคืนหาดเลพังมูลค่านับหมื่นล้านคืนจากกลุ่มนายทุน เเละนายศักดา ช่วงรังษี อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองภูเก็ต ซึ่งเป็นสำนักงานสำคัญในจังหวัดใหญ่ภาคใต้ เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว มีข้อพิพาทกับนายทุนเป็นเป็นคดีใหญ่เกี่ยวกับโรงเเรมบุกรุกป่าสงวน ซึ่งสำนักงานดังกล่าวจะมีบทบาทในการพิทักษ์ที่ของรัฐ เป็นพวกที่ดินผืนป่าเเละชายทะเลจากนายทุน
โดยนายศักดา เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลาบ ดีกรีนักเรียนนอกจบป.โทด้านกฎหมายจาก ฮาร์วาร์ดเเละ ป.โท จาก มหาวิทยาลัยดีคิ่น เคยสอบผู้ช่วยผู้พิพากษารุ่น28 เเละรองเลขาธิการสำนักอบรมศึกษาเเห่งเนติบัณฑิตยสภา เเละเป็นตัวเต็งกรรมการเนติฯสายอัยการ การที่ได้ทั้งนายศักดา เเละนายบัณฑูรขึ้นเป็นระดับอธิบดีในพื้นที่สำคัญภาคใต้ เชื่อว่าในคดีที่มีการฟ้องร้องทวงคืนผืนป่าจะมีประสิทธิภาพนำผลประโยชน์ของประเทศซึ่งเป็นที่ดินกลับมานับเเสนล้านบาท
ระดับรองอธิบดีอัยการที่น่าสนใจ มีนายโกศลวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักกิจการและโครงการในพระดำริพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา สำนักงานอัยการสูงสุด ไปดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 9
สำหรับบทบาทที่ผ่านมาของนายโกศลวัฒน์ ถือเป็นรองโฆษกอัยการฯ ที่มีบทบาทสำคัญในด้านการสนับสนุนการทำงานช่วยเหลือสังคมและผู้ด้อยโอกาสมาโดยตลอด สนับสนุนผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้วยการมอบรางวัล “คนดีที่เรายกย่อง”
ทั้งนี้ สามารถดูผลการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งและสับเปลี่ยนแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการอัยการทั้งหมดได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้
ผลการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งและสับเปลี่ยนโยกย้ายข้าราชการอัยการ 218 ตำแหน่ง