"วิชา" สั่งเรียก "สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" แจงคดีบอส

18 ส.ค. 2563 | 11:28 น.

คดีบอส อยู่วิทยา "วิชา" สั่งเรียก "สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" เข้าให้ข้อมูล หลังตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แฉ ถูกกดดัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา​ นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน​ หรือ คดีบอส อยู่วิทยา ให้สัมภาษณ์ภายหลังสอบข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานว่า พ.ต.อ.ธนะสิทธิ์ ถือเป็นพยานที่มีน้ำหนักทำให้อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้องในเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถ จาก 177 เป็น 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพียงครั้งเดียว คือ ในวันที่ 26 ก.พ.2559 และยืนยันว่า ไม่ได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานสอบสวนในวันที่ 2 มี.ค. ตามที่ถูกกล่าวอ้าง

 

รวมถึงไม่ทราบว่า นายสายประสิทธิ เกิดนิยม เข้ามาได้อย่างไร ทราบเพียงเป็นผู้ทำข้อมูลในคดีเสี่ยชูวงษ์ จึงทำให้เชื่อถือในข้อมูล แต่เมื่อกลับมาทบทวนและเชื่อว่า ไม่ถูกต้องจึงพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลกลับไปอยู่ที่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสืบสวน สน.ทองหล่อ อ้างว่า ทำคดีอื่นซับซ้อนทำให้เกิดความสับสน จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

“เพิ่มพูน ชิดชอบ”มาตามนัดเข้าให้ข้อมูลทีม“วิชา”สอบคดี“บอส“

“พล.ต.ต.สุคุณ”แจงคดี“บอส”ขับรถเร็ว-แอลกอฮอล์เกินก.ม.กำหนด

ส่ง อัยการสูงสุด รื้อคดี "บอส อยู่วิทยา" ข้อหาเสพโคเคน-ขับรถเร็ว

จับพิรุธ “อัยการ” ชักเข้าชักออก คดี “บอส อยู่วิทยา”

 

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธนะสิทธิ์ ยอมรับว่า กังวลเรื่องของความปลอดภัย โดยอ้างว่า มีบุคคลติดตาม 

 

นายวิชา กล่าวต่อว่า เจ้าตัวยอมรับต่อคณะกรรมการว่า ถูกกดดัน เมื่อผู้สื่อข่าวย้ำว่า ถูกกดดันจากใครนั้น นายวิชา ระบุว่า ไม่ได้ตอบตรงๆแต่บอกว่า คนที่พานายสายประสิทธิ์ มา คือ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ดังนั้น คณะกรรมการฯจะเชิญมาให้ข้อมูลชี้แจงในวันพฤหัสบดีที่ 20 ส.ค.ในเวลา 13:30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา อาคารเทเวศร์ รวมถึงเชิญอัยการสูงสุดมาด้วย ส่วนจะต้องเชิญ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก ที่ถูกกล่าวอ้างในรายงานมาชี้แจงด้วยหรือไม่นั้น นายวิชาระบุ คงไม่ต้องเพราะวันนี้ชี้แจงว่า ใช้เพียงห้องทำงานของ พล.ต.อ.มนู เท่านั้น

 

อย่างไรก็ดี จะได้ตรวจสอบว่า ในการทำสำนวนมีใครที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบ ส่วนข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบทั้งหมด พ.ต.อ.วิรดล เหมือนจะรับผิดคนเดียวใช่หรือไม่นั้น นายวิชา ระบุ อยู่ในกระบวนการแต่ไม่เปิดเผยว่า มีบุคคลใดบ้าง

 

ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบฝ่ายตำรวจจะเชิญผู้บังคับการกองต่างประเทศ ที่รับผิดชอบการออกหมายแดง หรือ อินเตอร์โพล และการส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการตรวจรับในวันพฤหัสนี้เช่นเดียวกัน รวมถึงเชิญตำรวจที่เชียงใหม่มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ นายจารุชาติ มาดทอง รวมถึงการชันสูตรพลิกศพด้วย 

 

ส่วนการเข้าให้ข้อเท็จจริงของ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ วันนี้ในช่วงบ่ายนั้น นายวิชา ระบุว่า เจ้าตัวได้ชี้แจงเรื่องการมอบอำนาจว่า เป็นไปตามระบบ คำสั่งเป็นเด็ดขาดไม่รับคืน และที่ไม่เห็นแย้งอัยการเพราะไม่มีข้อมูลใดผิดปกติ แต่ยอมรับว่าเพิ่งทราบว่า มีการกดดัน พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ เมื่อวานนี้จากสื่อ ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ว่า มีการกดดัน และทำสำนวนอันเป็นเท็จ ตนคงไม่ยอม ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการจะต้องนำไปพิจารณากระบวนการทำงานของตำรวจต่อไป

อย่างไรก็ดี ได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมไปดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว

 

ส่วนจากข้อมูลจากคณะทำงานทั้งหมดจนถึงขณะนี้นั้นถามว่า เห็นชัดแล้วหรือไม่ว่า เป็นกระบวนการเอื้อในทางคดีให้กับนายวรยุทธ อยู่วิทยา นายวิชา ระบุว่า อย่างที่สื่อมวลชนบอก เราก็รู้กันดีอยู่ว่า เป็นสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ไม่ใช่แค่คดีรถชนกันตายแต่จริงๆแล้วไม่ปกติ สมแล้วที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบโดยเฉพาะ

 

ส่วนข้อวิจารณ์ในโซเชียลที่มองว่า คณะกรรมการฯชุดนี้ เป็นขบวนการสอบเพื่อช่วยกันนั้น ยืนยันว่า ตนจะออกมาเปิดเผยข้อมูลพิรุธและบอกว่า มันผิดปกติ มีหรือไม่ที่ตนบอกว่า ไม่มีผิดปกติเลย